พี่น้องเกษตรกรบางส่วนยังคงไม่ได้ช่วยเหลือจากภาครัฐ หลังมีมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เห็นชอบแก้ปัญหาหนี้สินทางการเกษตร กองทุนฟื้นฟูลูกหนี้ ธนาคารรัฐ 4 แห่ง จึงทำให้กลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) ออกมาเคลื่อนไหวปักหลักชุมนุมกันมาตั้งแต่ วันที่ 7 พ.ย. 65 ที่ผ่านมาเรียกร้องขอให้รัฐบาลดำเนินการและจัดสรรงบประมาณให้กับสมาชิกโดยด่วน
นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี ได้ลงพื้นที่บริเวณข้างกระทรวงการคลังเพื่อพูดคุยรับฟังปัญหาจากเครือข่าย คนท. พร้อมระบุว่า เกษตรกรไม่ว่าจะทำไร่ ทำสวน ทำนา สิ่งสำคัญ คือ ต้นทุนการผลิตทุกอย่างสูงขึ้น ทั้งน้ำมัน ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าแรง ทางกลับกันราคาผลผลิตยังตกต่ำหรือยังคงเดิมไม่เคยขยับขึ้น
ขณะที่สินค้าอื่นๆ รวมไปถึงอุตสาหกรรมทางการเกษตรอื่นๆปรับราคาสูงขึ้น เป็นเหตุให้เกษตรกรไม่สามารถดำรงชีพได้ และที่สำคัญดอกเบี้ย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งเป็นธนาคารเฉพาะกิจ แม้เริ่มอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4-5 แต่เมื่อผิดนัด ไม่ได้ชำระหนีตามที่ตกลงไว้จากเหตุที่กล่าวมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยขึ้นมาสูงร้อยละ 17-18 บางครั้งขึ้นมาร้อยละ 20 เลยทีเดียว
นายถาวร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ล่วงเลยเวลามา 8 เดือนแล้ว จากที่ ครม. มีมติ แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่พืชผลของเกษตรกรราคาตกต่ำ ปัจจัยการผลิตแพง ธนาคารเจ้าหนี้กำลังฟ้อง และกำลังยึดทรัพย์ของเกษตรกร ตนจึงเดินทางมารับฟังปัญหาเพื่อนำเสนอ รัฐบาลให้เร่งดำเนินแก้ไขปัญหาช่วยเหลือเกษตรกร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง