ข่าว

“ราชกิจจาฯ” ประกาศ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ ยังไม่ครบ 8 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ราชกิจจาฯ” ประกาศคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่ครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ สามารถนั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อได้ถึง 5 เม.ย. 2568 

เมื่อวันที่ 28  ต.ค.2565 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบ มาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่

“ราชกิจจาฯ” ประกาศ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ ยังไม่ครบ 8 ปี

โดยคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สรุปได้ว่า การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสองและมาตรา 158 วรรคสี่ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ และให้เริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ครบวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี วันที่ 5 เม.ย. 2568 

 

“ราชกิจจาฯ” ประกาศ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ ยังไม่ครบ 8 ปี

สำหรับรายละเอียดของคำวินิจฉัย สรุปโดยละเอียดดังนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าบทบัญญัติกฎหมายของรัฐธรรมนูญปี 2560 แตกต่างจากรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวปี 2557 คือการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามมาตรา 159 และมาตรา 172

 

โดยมีหลักการสำคัญคือ การพิจารณาบุคคลเพื่อให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องดำเนินการตามบัญชีรายชื่อที่เสนอแก่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เป็นหลักสำคัญประการหนึ่งในการได้มาซึ่งนายกฯ

 

โดยมีหลักการสำคัญคือ การพิจารณาบุคคลเพื่อให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องดำเนินการตามบัญชีรายชื่อที่เสนอแก่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เป็นหลักสำคัญประการหนึ่งในการได้มาซึ่งนายกฯ

 

ส่วนข้อความที่อ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2550 และคำวินิจฉัยที่4/2564 เป็นการใช้กฎหมายย้อนหลัง เพื่อเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกภาพ ส.ส. มิใช่โทษทางอาญา กระทำได้เช่นเดียวกับคำร้องของคดีนี้นั้น เห็นว่า คำวินิจฉัยดังกล่าว เป็นคนละกรณีข้อเท็จจริงกรณีนี้ มีหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต่างกัน ไม่อาจนำมาเทียบเคียงกันได้

 

สำหรับข้ออ้างที่ว่า บันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่500 ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธาน กรธ. คนที่ 1 ให้ความเห็นการนับระยะเวลาการนับดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งก่อนรัฐธรรมนูญปี 2560 บังคับใช้ สามารถนับรวมการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้นั้น

 

ศาลเห็นว่า การประชุมดังกล่าว เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาความมุ่งหมาย และคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นเพียงการอธิบายแนวความคิดของ กรธ. ในการจัดทำรัฐธรรมนูญมาตราต่าง ๆ ว่า มีความมุ่งหมายอย่างไร ประกอบความเห็นประธาน กรธ. และรองประธาน กรธ. คนที่ 1 มิได้นำไประบุไว้ในความมุ่งหมาย และคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญมาตรา 158


ตามบันทึกการประชุม กรธ. ที่พิจารณาเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามมาตรา 158 วรรคสี่ ไม่ปรากฏประเด็นการพิจารณา หรืออภิปรายการนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งว่า สามารถนับรวมการดำรงตำแหน่งนายกฯ ก่อนรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับด้วย การกำหนดเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯตามมาตรา 158 วรรคสี่ มีความหมายเฉพาะการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 


ดังนั้น เมื่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ประกาศใช้บังคับในวันที่ 6 เม.ย. 2560 และพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ บริหารราชการแผ่นดิน อยู่ในวันก่อนประกาศใช้ตามรัฐธรรมนูญ ตามบทเฉพาะกาลมาตรา 2564 การดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ดังกล่าว จึงเป็นการดำรงตำแหน่งภายในรัฐธรรมนูญ 2560 นี้ ต้องอยู่ภายใต้บังคับตามมาตรา 158 วรรคสี่


ส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็น ครม. ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ ต้องถือว่าวันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 ประกาศใช้ เป็นวันเริ่มต้นรับตำแหน่ง เมื่อผู้ถูกร้อง(พล.อ.ประยุทธ์) ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 นับตั้งแต่ 6 เม.ย. 2560 ถึงวันที่ 24 ส.ค. 2565 ผู้ถูกร้องจึงดำรงตำแหน่งนายก ยังไม่ครบกำหนดเวลาตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 วรรคสี่

 

 

ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 170 วรรคสี่ ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ ทั้งนี้อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญ โดยมติเสียงข้างมาก วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 170 วรรคสองประกอบมาตรา 158 วรรคสี่

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2565 ที่ผ่านมานั้น ตุลาการฯ เสียงข้างมาก 6 ราย มีมติชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังดำรงตำแหน่งไม่ครบ 8 ปี ได้แก่ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, นายปัญญา อุดชาชน, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายบรรจงศักดิ์วงศ์ปราชญ์, นายจิรนิติ หะวานนท์ และ นายวิรุฬห์ แสงเทียน 


ส่วนเสียงข้างน้อย 3 ราย ที่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปีแล้ว ได้แก่ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์, นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์ และนายนภดล เทพพิทักษ์

 

“ราชกิจจาฯ” ประกาศ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ ยังไม่ครบ 8 ปี

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

 

เพิ่มเพื่อน Line https://lin.ee/qw9UHd2

 

Facebook https://www.facebook.com/komchadluek/

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ