ข่าว

"กรณ์" เห็นด้วย ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดิน-ที่อยู่อาศัยได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ

28 ต.ค. 2565

"กรณ์" เห็นด้วย ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดิน-ที่อยู่อาศัยได้ เพื่อสร้างโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่แนะต้องออกมาตรการภาษีอย่างเป็นธรรม

หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมหาดไทย ปลดล็อกต่างชาติ ให้สามารถซื้อบ้าน-ถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาท ทำให้บางฝ่ายเกิดความกังวลว่า จะเป็นการยึดและแย่งพื้นที่ทำกินของคนไทยหรือไม่  

 

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เป็นนโยบายที่น่าสนใจ เพราะเป็นจุดดึงดูดทุนจากต่างประเทศเข้าในประเทศไทย ต่างชาติเองก็จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ดังนั้นมุมทางเศรษฐกิจ ในระยะสั้นก็จะมีเงินเข้ามาจากการซื้อที่ดินที่อยู่อาศัย และในระยะยาวกว่านั้นก็มาจากการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งการใช้ทักษะความรู้ความสามารถของเขา มาสร้างงงาน สร้างโอกาสในบ้านเราด้วย 

เป็นธรรมดาที่หลายคนอาจจะกังวล ในแง่ของผลข้างเคียงว่าต่างชาติจะมาแย่งซื้อที่ซื้อบ้านจากคนไทยหรือไม่ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ ครม.ได้วางกรอบกติกา เพื่อที่จะจำกัดผลค้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น การที่ระบุว่า ต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาซื้อที่ดิน หรือที่อยู่อาศัย ต้องมีเงินลงทุนผูกพัน ในประเทศไทย อย่างน้อย 3 ปี เป็นวงเงิน 40 ล้าน สะท้อนให้เห็นว่า ตัวมูลค่าสินค้า บ้านและที่ดิน ในราคาค่อนข้างสูง จะเป็นคนละตลาดกับการซื้อขายบ้านทั่วไป 

 

นอกจากนี้กฎหมายยังจำกัดพื้นที่ในการซื้อที่ดินที่อยู่อาศัยเฉพาะในเขตเทศบาลเท่านั้น ป้องกันไม่ให้แย่งซื้อกับชาวบ้าน เกษตรกร ที่อยู่นอกเขตเทศบาล และการที่รัฐบาลจำกัดเวลาการทบทวนใน 5 ปี ก็ชี้ให้เห็นหลักคิดในเชิงแซนด์บ๊อกซ์ คือ ทำทดลองดู 

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้พูดกันมานานมาก ถกเถียงกันมาไม่มีข้อสรุป รัฐบาลเลยให้ลองดู  5 ปี มีข้อเสียมากกว่าข้อดี ก็สามารถยกเลิกกฎหมายได้ตามความเหมาะสม ส่วนตัวมองว่า เป็นแนวทางที่ดี แต่ก็ต้องคอยดูจะเป็นอย่างไร ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรเริ่มมีแนวโน้มลดลง เพราะฉะนั้นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติ ที่มีเงิน มีทักษะ เข้ามาทำงาน หรือตั้งรกราก เปิดกิจการในประเทศไทย หรือ Work from Thailand มากขึ้น จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะทดลองนโยบายนี้

 

อย่างไรก็ตามนายกรณ์ เสนอนแนะ ควรปรับโครงสร้างภาษี ให้มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝั่งของเจ้าของที่ดินเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งภาษีจากการซื้อขายที่ดิน ที่อยู่อาศัย เป็นธุรกิจเฉพาะ ก็จะมีค่าอากรแสตมป์ 3% ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าจะเป็นภาระของผู้ซื้อหรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้ว ภาษีควรต้องจ่ายโดยผู้ที่มีกำไร คือ ผู้ที่มีทรัพย์สินและขายทรัพย์สินให้กับต่างชาติ ที่ได้โอกาสจากการทำกำไร เรื่องราวเหล่านั้นต้องพิจารณาด้วย เพราะมาตรการภาษีโดยรวม มีเม็ดเงินกลับเข้ามาในส่วนของรัฐบาลเพื่อที่จะเอาไปสร้างประโยชน์ให้ประชาชนในวงกว้างได้มาก

 

คมชัดลึก ยังมีเนื้อหาสาระอื่นๆ ดูเพิ่มเติมได้ที่
Website -  www.komchadluek.net
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057