"พรรคเป็นธรรม" ปักธงรบ “ชายแดนใต้” ชู “สิทธิชุมชน” เป็นวาระแห่งชาติ
"กัณวีร์-ฮากิม" แท็กทีมปักธง "พรรคเป็นธรรม" สู้ศึกเลืกตั้ง จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมชูนโยบายเป็น จังหวัดจัดการตนเอง และ สิทธิชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ
นายกัณวีร์ สืบแสง ประธานยุทธศาสตร์และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ "เปลี่ยน สร้าง สู้" สัญจร ของพรรคเป็นธรรม ที่ จ.ปัตตานี และยะลา ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา พรรคเป็นธรรม ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและภาคประชาสังคมในพื้นที่
พร้อมทั้งเปิดตัวนายฮากิม พงตีกอ รองเลขาธิการพรรค และเปิดตัวนโยบาย จังหวัดจัดการตนเอง และการส่งเสริมให้ สิทธิชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่
"การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการฟังเสียงศักดิ์สิทธิ์(ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน) เพื่อนำมาเป็นกรอบนโยบายของพรรค ซึ่งเราทำต่อเนื่อง โดยคุณฮากิม พงตีกอ รองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม จะเป็นคนนำยุทธศาสตร์ในพื้นที่มาสร้างนโยบายที่เกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา" นายกัณวีร์ กล่าว
นายฮากิม เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เราพบว่า ประชาชนไม่อยากให้พรรคเป็นธรรม เป็นพรรคซ้ำกับที่มีอยู่ในพื้นที่ เราจึงต้องเป็นพรรคที่ตอบโจทย์ที่ประชาชนอยากได้ เราต้องไปไกลในทางนโยบายและแก้ปัญหาตรงจุดในพื้นที่เราต้องกล้าพูด เพื่อผลักดันในสภาผู้แทนราษฎร
"เราเสียดายเวลา 4 ปีถ้ารัฐบาลทำอะไรไม่ได้ ที่ปาตานีก็เสียโอกาส เราจึงต้องการทำนโยบายที่ตรงความต้องการของประชาชนจริงๆ เรื่องทหารสันติภาพ อำนาจของประชาชนในพื้นที่ทั้งการกระจายอำนาจ การศึกษาและเศรษฐกิจที่ประชาชนอยากกำหนดเอง ผมต้องทำให้พรรคเป็นธรรม ตอบโจทย์คนในพื้นที่ให้ได้ครับ เราอยู่กับพี่นล กัณวีร์ ก็เพื่อมายืนยันว่าเราทำจริง และได้ลุยกันแน่ครับ " นายฮากิม กล่าวย้ำ
สำหรับเวทีการพูดคุย "เปลี่ยน สร้าง สู้" สัญจร ที่ จ.ยะลา นายกัณวีร์ และ นายฮากิม ได้แลกเปลี่ยนนโยบายจังหวัดจัดการตนเอง กับนักวิชาการ และภาคประชาสังคม รวมถึงประชาชนในพื้นที่ ประกอบด้วย อ.อัสมา มังกรชัย คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นายอาเต็ฟ โซ๊ะโก ประธาน The Patani และนายยามารุดดิน ทรงสิริ แนวร่วมเรียนฟรี CanFree
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำถึงการจัดเวที " เปลี่ยน สร้าง สู้ " สัญจร เพื่อมารับฟังปัญหาของประชาชน ตามนโยบาย เปลี่ยน เช่น การเปลี่ยนความมั่นคงทหาร ให้เป็นความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาความมั่นคงมายาวนาน รัฐทุ่มงบประมาณมาหลายแสนล้านบาท แต่กลับกลายเป็นว่า 18 ปีที่ผ่านมาประชาชนยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ยังไม่ได้รับความยุติธรรม
"การทหารต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทหารต้องทันสมัย ลด กระชับและต้องเป็นสากล ยิ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชน ไม่ใช่อริราชศัตรู ที่ทหารต้องมีหน้าที่มาปราบปรามประชาชน ที่อาจจะมีการคิดต่าง หรือกลุ่มที่ต้องจับอาวุธเพื่อต่อสู้ตามอุดมการณ์ การแก้ไขปัญหาจึงต้องเข้าใจที่ประวัติศาสตร์เข้าใจความหลากหลายทางชาติพันธุ์ การมีตัวตนและอัตลักษณ์ ที่เราพยายามที่จะสร้างความเข้าใจตรงนี้ และเปลี่ยนให้ทหารมีความเข้าใจความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชนในพื้นที่ด้วย " นายกัณวีร์ ตอบคำถามของอาจารย์อัสมา มังกรชัย
นายกัณวีร์ กล่าวว่า พรรคเป็นธรรม มีความตั้งใจทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายจังหวัดจัดการตนเอง ที่ต้องกระจายอำนาจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดน มีศักยภาพสูงทางด้านเศรษฐกิจ แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถพัฒนาได้โดยตรง จึงตั้งเป้าที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จากการมีส่วนร่วมประชาชนให้สามารถกำหนดชะตากรรมของตนเองได้จริง รวมถึงการผลักดันนโยบาย มนุษยธรรมนำการเมือง
ขณะที่นายอาเต๊ฟ โซ๊ะโก ประธาน The Patani เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองที่ต้องการคะแนนเสียงจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคเป็นธรรม จึงต้องแสดงให้เห็นได้ว่า จะเป็นพรรคที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างไรบ้าง
นายฮากิม รองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ที่เคยเป็นนักกิจกรรมใน ปาตานี บารู เปิดเผยว่า การตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคเป็นธรรม ก็หวังที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ไปผลักดันให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการจัดการการปกครองที่เหมาะสม ที่มาจากประชาชน เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯ เป็นต้น
ส่วนเวทีรับฟังความคิดเห็นเรื่องสิทธิชุมชน มีการพูดคุยกับกลุ่ม Patani Resources โดยนายมูฮัมหมัด กัสดาฟี กลุ่มศึกษาชุมชนและทรัพยากรปาตานี ได้นำตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐเช่น โรงไฟฟ้าขยะชีวมวล ที่หนองจิก จ.ปัตตานี ที่ไม่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน มีการเปลี่ยนผังเมืองโดยที่ประชาชนไม่ได้มีสิทธิในการออกเสียง เช่นมาเปิดเวทีรับฟังในวันฮารีรายอ ที่ประชาชนต้องร่วมฉลองเนื่องในวันสิ้นสุดการถือศีลอด เป็นต้น
นายกัณวีร์ เห็นว่า การบริหารจัดการที่ไม่ตอบโจทย์ปัญหาสิทธิชุมชนและการบริหารจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น ระบบที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน ที่มีทั้งอำนาจการปกครองส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาจัดการกับกระบวนการพัฒนาที่ไม่ได้เอาประชาชนเจ้าของพื้นที่เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการอย่างถูกต้อง
"ผมยืนยันว่าพรรคเป็นธรรมจะร่วมต่อสู้กับพี่น้องภาคประชาสังคมและประชาชนในการทำให้ประเด็นเรื่อง “สิทธิชุมชน” เป็นวาระแห่งชาติให้ได้นโยบายหลักของพรรคเป็นธรรมคือ เปลี่ยน ให้ชุมชนกำหนดอนาคตพัฒนาแทนทุนใหญ่ และเปลี่ยน เสียงประชาชนเป็นนโยบายนำไปสู่การร่างกฎหมายที่ประชาชนมีส่วนร่วม ที่กำหนดเรื่องเปลี่ยนดังกล่าว เพื่อจะนำมาซึ่งการสู้เพื่อให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของชาติ และสู้เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพ"
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำถึงนโยบาย “จังหวัดจัดการตนเองในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทยทั้งหมด เพื่อเป็นกระบวนการนำร่องในการได้มาซึ่งการกระจายอำนาจอย่างแท้จริงต่อไป การให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง มีการจัดตั้งสภาเขต/อำเภอ การเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต/อำเภอโดยตรง การยกเลิกองคาพยพขององค์กรปกครองท้องถิ่นทั้งหมด (เนื่องจาก อปท. ที่มีอยู่ยังไม่ตอบโจทย์การบริหารจัดการงบประมาณได้) การให้จังหวัด (ชายแดน) จัดการตนเองสามารถบริหารจัดการภาษีท้องถิ่นได้ และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นการกระจายอำนาจสู่มือประชาชนเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line https://lin.ee/qw9UHd2