ผู้นำ 79 สหภาพยานยนต์ฯ แถลงจุดยืนหนุนลุงตู่ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

วันที่ 23 ตุลาคม 2565 ที่สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ผู้นำสหภาพแรงงาน 79 แห่ง แถลงจุดยืนสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี คนต่อไป ในงานสัมมนากรรมการบริหารและสมาชิกสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ในหัวข้อ "บทบาทและนโยบายที่สำคัญของกระทรวงแรงงานในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้ใช้งงาน" 
 

ด้วยเล็งเห็นว่า "กระทรวงแรงงาน" เป็นองค์กรหลักที่ดูแลภาคแรงงาน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบธุรกิจและแรงาน ให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงดูแลสิทธิ ผลประโยชน์ ปกป้องคุ้มครองผู้ใช้แรงงานทุกระดับ สร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

นายมานิตย์ ระบุว่า ตนและผู้นำสหภาพแรงงาน ขอเป็นตัวแทนของพี่น้อง ผู้ใช้แรงงาน ขอเป็นกำลังใจและกำลังหลักในการขับเคลื่อนนโยบายทุกนโยบายของนาย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ได้ทำทุกสิ่ง ทุกอย่าง อย่างแท้จริงเพื่อพี่น้อง ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ เช่นการนำพาแรงงานผ่านวิกฤตโควิด การเยียวยา การฟื้นฟูต่างๆ ที่ผ่านมาทราบกันดีอยู่ว่า ทุกนโยบายที่ทำให้กับพี่น้องแรงงานนั้น ถ้าไม่มีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่สามารถออกมาเป็นรูปธรรมได้

"ขอให้คำมั่นสัญญา เราจะขอสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อบริหารประเทศต่อไป เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน" นายมานิตย์กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่นายสุชาติ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ผ่านมา การดำเนินการดูแลภาคแรงงานในช่วงดังกล่าว ถือว่าอยู่ในระดับดีมาก สามารถก้าวข้ามวิกฤตจนหลายอย่างของประเทศในวันนี้เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น แรงงานสามารถทำงานได้ ธุรกิจไม่ต้องปิดตัว ทำให้ประเทศมีสินค้าสำหรับการส่งออก เป็นการช่วยพยุงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้ ขณะเดียวกันสถานการณ์ด้านแรงงานมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีจำนวนผู้ว่างงานเดือนสิงหาคม 2565 ลดลงมาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยอนาคต กระทรวงแรงงาน จะดำเนินการ 
1.ผลักดันขยายตลาดแรงงานไปต่างประเทศ รวมถึงบริการจัดหางานออนไลน์ สนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งเสริมการใช้ระบบประกันสังคมเป็นแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมอยู่ระหว่างดำเนินการให้มีสถาบันทางการแพทย์เพื่อผู้ประกันตน และการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประกันตน รวมถึงบ้านพักคนชราตามมาตรา 33 
2.ยกระดับฝีมือและพัฒนาทักษะแรงงาน ให้ความสำคัญในการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อรองรับเศรษฐกิจใหม่ เร่งรัดมาตรการยกระดับผลิตภาพแรงงาน เร่งสนับสนุนการพัฒนาแรงงานที่มีสมรรถนะสูง ยกระดับและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเศรษฐกิจระดับชุมชน 
3.เร่งรัดการดูแลแรงงานนอกระบบ แรงงานสูงอายุ และแรงงานคนพิการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น 
4.เร่งรัดการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน 

ติดตาม คมชัดลึก ได้ที่ 
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w