ข่าว

ยุบพรรค "ไทรักธรรม" เหตุทำดอกไม้จันทน์ "พีระวิทย์" ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลรัฐธรรมนูญอ่านวินิจฉัย "ยุบพรรคไทรักธรรม" และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10 ปี หลังจูงใจชาวบ้านสมัครสมาชิกพรรค

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาล นั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยในคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบ "พรรคไทรักธรรม" และตัดสิทธิเลือกตั้ง

 

จากกรณีการจูงใจให้ประชาชนสมัครสมาชิกพรรค ด้วยการทำดอกไม้จันทน์ ในช่วง 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 โดยไม่เสียค่าสมาชิกและค่าบำรุงพรรค มีเงื่อนไขหากสมัครครบ500คนขึ้นไป สามารถเปิดสาขาพรรคได้ ซึ่งพรรคจะเป็นผู้ลงทุนออกค่าใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดและส่งดอกไม้จันทน์ มายังสาขาพรรคที่จังหวัดพิจิตร โดยพรรคจะรับซื้อดอกไม้จันทน์จากชาวบ้านคืน ในราคาดอกละ 1 บาท 

ทั้งนี้จากการสอบพยานจะเห็นได้ว่า เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ศรัทธาพรรค แต่มุ่งหวังได้เงินจากการทำดอกไม้จันทน์ ไม่ได้มุ่งหวังจากการทำพรรคการเมือง อีกทั้งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง 

 

ส่วนข้อโต้แย้งจากฝั่งพรรคและกรรมการบริหารพรรค ระบุว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมอาชีพของชาวนา โดยพรรคไม่ได้ซื้ออุปกรณ์หรือรับซื้อดอกไม้จันทน์ไว้เอง และไม่เคยจูงใจหรือสั่งการให้บุคคลใดจูงใจ ผู้ที่ประสงค์เป็นสมาชิกกลุ่มดอกไม้จันทน์ และไม่เคยสั่งการให้ใครสำรองเงินออกไปก่อน ซึ่งแม้หัวหน้าพรรคไทรักธรรม เคยให้ข้อมูลว่า ได้รับคำแนะนำจาก กกต. ว่า การสมัครสมาชิกพรรคในลักษณะดังกล่าว ไม่สามารถทำได้ จึงยุติก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และยอมรับว่าเคยซื้อดอกไม้จันทน์จากสมาชิกไปเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง 

ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัย 3 ประเด็น เสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 คือ 

 

1. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ "ยุบพรรคไทรักธรรม"

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3)และวรรคสอง ประกอบมาตรา 30

 

2. เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค ดำรงตำแหน่งอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน2561 ถึงเดือนมกราคม2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรค ตามมาตรา 92 วรรคสอง มีกำหนดเวลา10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค

 

3. ห้ามผู้เคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของพรรค ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคตามมาตรา 94 วรรคสอง

 

อย่างไรก็ตามการฟังคำวินิจฉัยในวันนี้นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ไม่ได้เดินทางมาร่วมรับฟัง โดยส่งตัวแทน คือ นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ประธานที่ปรึกษากฏหมาย มาร่วมฟัง ทั้งนี้จากผลวินิจฉัย ทำให้นายพีระวิทย์ ต้องพ้นจากตำแหน่งและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทันที

 

สำหรับรายชื่อ 10 คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักธรรม 10 คน ประกอบด้วย

1.นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรค

2.นายวิวัฒน์ พูลเกตุ รองหัวหน้าพรรค

3.นางปราณี อังศิริจินดา รองหัวหน้าพรรค

4.นายพักรูดิน วายาโยะ เลขาธิการพรรค

5.นายธงชัย แสงสุมาตร รองเลขาธิการพรรค

6.นางสายชล ไม้เจริญ นายทะเบียนสมาชิกพรรค

7.นายนพดล พรหมนุช โฆษกพรรค

8.นายสุนธรเทพ ทองสา กรรมการบริการพรรค

9.นางนิตยา ยอดเจริญ กรรมการบริการพรรค 

10.นางพัตร์พิมล ฉินาคพันธ์ กรรมการบริการพรรค

 

ส่วนนายพีระวิทย์ นั้น เป็นประธานกลุ่ม 16 พรรคเล็ก มีฐานการเมืองอยู่ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี หรือเรียกกันว่า "ส.ส.เอ๋พระบาท" ซึ่งได้เข้ามาเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หลังเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แต่เข้านั่งสภาได้เพียง 3 วัน มีเหตุให้เจ้าตัวต้องพ้นสภาพส.ส. เนื่องจากมีการคำนวณคะแนนใหม่ของการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 8 

 

สุดท้ายในปี 2563 แล้ว ได้กลับเข้านั่งเป็น ส.ส. อีกครั้ง เพราะนายชาติชาย วรพิพัฒน์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษาให้โดนใบดำ ทำให้พรรคไทรักธรรมมีส.ส. เพิ่มอีก 1 ที่นั่ง และตั้งแต่นั้นมา นายพีระวิทย์ถือเป็นผู้ประสานงานพรรคเล็กตัวหลักในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

อุ่นเครื่องซักฟอก “เอ๋ พีระวิทย์” สายตรงธรรมนัส วิ่งรอกทั้งบ้านใหม่ชลบุรี และบ้านป่ารอยต่อฯ เพราะเป็นโอกาสเฮี้ยวเที่ยวสุดท้าย ก่อนยุบสภา++ คอลัมน์...ท่องยุทธภพ โดย... ขุนน้ำหมึก

 

อุ่นเครื่องซักฟอก “เอ๋ พีระวิทย์” แกนนำกลุ่ม 16 สายตรงธรรมนัส วิ่งรอกทั้งบ้านใหม่ชลบุรี และบ้านป่ารอยต่อฯ 


เที่ยวสุดท้าย “เอ๋ พีระวิทย์” พร้อมเพื่อนพรรคเล็ก ชิงเล่นเกมคณิตศาสตร์การเมือง เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน ก็จะยุบสภาแล้ว


ใกล้วันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 19-23 ก.ค.2565 ก็เห็นบทบาทของ ส.ส.เอ๋ หรือ พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำกลุ่ม 16 ผ่านสื่อมากขึ้น หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล
 

 

ADVERTISEMENT

ลำพัง ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย 16 เสียง ไม่มีกำลังพอที่จะโหวตคว่ำรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงต้องวิ่งหากลุ่ม 16 พรรคเล็กมาเป็นแนวร่วม


พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม คู่หู พิเชษฐ์ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานกลุ่ม 16 จึงมีท่าทีแทงกั๊ก โดยอ้างว่า ต้องรอดูผลการเจรจากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่บ้านป่ารอยต่อฯ ในวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค.2565


แม้จะเป็นหัวหน้าพรรคเล็ก แต่ ส.ส.เอ๋ ก็มีลีลาใหญ่เกินตัว ดังคำพูดที่ว่า พวกเราไม่จำเป็นต้องคิดและทำ เหมือน ร.อ.ธรรมนัส 


ว่ากันตามจริง กลุ่ม 16 ไม่ได้มีขุมกำลัง 16+2 เสียงจริงตามราคาคุยหรอก เพราะ ร.อ.ธรรมนัส และแกนนำพรรคเล็กด้วยกันเอง ก็ยอมรับว่า มีอยู่ 4-5 เสียง

 

ส.ส.พีระวิทย์ และพิเชษฐ ไปอวยพรวันเกิด สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน


ที่เห็นหน้าเห็นตากัน ก็จะมี พิเชษฐ สถิรชวาล ,คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย, พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ,สุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และดำรงค์ พิเดช พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พร้อม ส.ส.ร่วมพรรคอีก 1 คน


‘ไปตามลูกพี่’
ส.ส.พรรคเล็กอย่าง “เอ๋ พีระวิทย์” และเพื่อนพ้อง มีค่ามีราคา เพราะรัฐบาลผสม ที่มีเสียงรวมกันเหนือกว่าฝ่ายค้านไม่มากนัก ฉะนั้น 10 เสียงจาก 10 พรรคเลยมีความหมาย 

 

อานิสงส์จากสูตรพึงมี   ทำให้พรรคเล็ก จำนวน 11 พรรค ได้ ส.ส.พรรคละ 1 คน แต่สมัยหน้า สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500 ไม่มีสูตรพึงมีแบบเอื้ออาทร และขั้นต่ำต้องได้ 1 แสนคะแนน จึงจะได้ สส.บัญชีรายชื่อ 1 คน


ในศึกซักฟอกที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ส.ส.พรรคเล็กหลายคน คงคิดว่า น่าจะเป็นโอกาสสุดท้าย จึงต้องเล่นเกมต่อรองให้ได้มากที่สุด


ส.ส.ส้มหล่นเหล่านี้ คงต้องคิดหาบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะสถานการณ์การเลือกตั้งสมัยหน้า โอกาสที่พรรคเล็กได้ 3 หมื่นแต้มจะเป็น ส.ส.นั้น กติกาใหม่ปิดทางฝันแล้ว


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อบางสำนักว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า จะมีเพื่อน ส.ส.จากกลุ่ม 16 ได้เตรียมย้ายเข้ามาสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย 


เชื่อว่า คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ,สุรทิน พิจารณ์ และดำรงค์ พิเดช ที่ใกล้ชิดธรรมนัส คงเปลี่ยนสีเสื้อจากพรรคเดิมมาสวมเสื้อเศรษฐกิจไทย


‘เจ้าถิ่นสายแข็ง’
“เอ๋ พีระวิทย์” มีฐานการเมืองอยู่ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และมุ่งหวังจะลงสมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 4 ในสมัยหน้า จึงเคลื่อนไหวทำกิจกรรมในพื้นที่ต่อเนื่อง


ต้นเดือน พ.ค.2569 พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค จัดงานวันเกิดครบรอบ 44 ปี ที่สำนักงานพรรคไทรักธรรม อ.พระพุทธบาท มีแจกข้าวสารชาวบ้าน และที่สำคัญ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เดินทางไปอวยพรถึงบ้านเกิด ส.ส.เอ๋ พร้อมกระเช้าดอกไม้จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี


ดังนั้น วันเกิดสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ชลบุรี ส.ส.เอ๋ พีระวิทย์ ก็เดินทางไปอวยพรประมุขบ้านใหม่เมืองชลเหมือนกัน 


ย้อนไปดูสนามเลือกตั้งสระบุรี เขต 4 (อ.พระพุทธบาท, อ.บ้านหมอ, อ.หนองโดน, อ.ดอนพุด และอ.เสาไห้) มีแชมป์เก่า องอาจ วงษ์ประยูร พรรคเพื่อไทย ครองพื้นที่มาหลายสมัย

 

ล่าสุด บุญส่ง เกิดหลำ อดีต ส.ว.สระบุรี ก็เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.เขต 4 ในนามเพื่อไทย ก็ต้องรอการพิจารณาจากกรรมการบริหารพรรคจะเลือกใคร


ทั้งองอาจ วงษ์ประยูร ขาใหญ่ อ.พระพุทธบาท และบุญส่ง เกิดหลำ จัดว่าเป็นสายแข็ง หาก ส.ส.เอ๋ พีระวิทย์ ตัดสินใจลงสนาม อาจต้องเลือกพรรคที่ใหญ่กว่าพรรคเศรษฐกิจไทย

 

ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่
Website - www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ