นายกฯ สั่ง ลดธงครึ่งเสา แสดงความ ไว้อาลัย เหตุการณ์ "กราดยิงหนองบัวลำภู"

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ "กราดยิงหนองบัวลำภู" ที่ ศูนย์เด็กเล็ก ใน อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และอยู่ระหว่างการรักษาตัวอีกเป็นจำนวนมากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือ เยียวยาผู้สูญเสียและครอบครัวโดยด่วน และขอให้ทุกส่วนราชการทั่วประเทศ ลดธงครึ่งเสา ในวันนี้ (7 ตุลาคม 2565) เป็นกรณีพิเศษ 1 วัน เพื่อแสดงความอาลัยต่อเหตุการณ์ที่ จ. หนองบัวลำภู

 

ทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปฏิบัติตามข้อสั่งการของ นายกรัฐมนตรี โดยส่งผู้บริหาร รองปลัดกระทรวง รองอธิบดี หัวหน้าบ้านเด็กจังหวัดใกล้เคียง พร้อมด้วยทีม สุขภาพจิต ไปเยี่ยมทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบภายในวันนี้ 

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นโศกนาฏกรรม ความสูญเสียครั้งใหญ่ ขอความร่วมมือประชาชนให้งดแชร์ภาพ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความรู้สึก สร้างบาดแผลให้ครอบครัวผู้สูญเสียด้วย

 

ทันทีที่ นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นภารกิจ จ.เพชรบูรณ์ ได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยสืบสวนสอบสวน กาชาดจัดเตรียมรวบรวมเลือดสำรอง (ซึ่งพร้อมนำส่งในคืนนี้ จำนวน 271 ถุง) สาธารณสุขด้านการแพทย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด้านการดูแล สุขภาพจิต กลาโหมจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์เพื่อการขนส่ง ยุติธรรมดูแลเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา พร้อมทั้ง ปรับแผนภารกิจ โดยคาดว่าจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เวลา 11.30 น. เพื่อไปเยี่ยมครอบครัวผู้สูญเสียในพื้นที่

 

ในโอกาสนี้ โฆษกรัฐบาล ได้เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีมติให้ความช่วยเหลือกรณีเหตุกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู ในเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น เฉพาะผู้เสียหาย ไม่รวมถึงผู้ก่อเหตุและบุคคลในครอบครัวซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ดังนี้

 

1. กรณีเสียชีวิต (ค่าจัดการศพและเงินทุนเลี้ยงชีพ) รายละ 200,000 บาท 

2. กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 100,000 บาท 

3. กรณีบาดเจ็บไม่สาหัส รายละ 50,000 บาท 

4. กรณีทุพพลภาพ รายละ 200,000 บาท 

 

ทั้งนี้ การช่วยเหลือจำนวนดังกล่าวเป็นการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ จะได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพิ่มเติมต่อไป

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w