ข่าว

ครม. อนุมัติเงินกู้ วงเงิน 1.52 หมื่นล้าน เสริมสภาพคล่องรฟท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คณะรัฐมนตรี อนุมัติเงินกู้ 1.5 หมื่นล้าน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ "การรถไฟฯ" หรือ รฟท. หลังขาดทุนต่อเนื่อง คาดเริ่มขาดเงินช่วงเดือนตุลาคม 2565 

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ภายหลังการ ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ2566 วงเงิน 15,200 ล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้นวงเงิน 1,500 ล้านบาท โดยให้ดำเนินการคัดเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีการประมูลวงเงินกู้ระยะสั้นตามความเห็นของ กระทรวงการคลัง และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดตามความเหมาะสม 

จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2558 รฟท. ขอกู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องรวมแล้วจำนวน 88,905 ล้านบาท ซึ่ง กระทรวงคมนาคม รายงานว่า รฟท.ประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง คาดการณืว่าปี 2566 รฟท.จะมีเงินสดรับ 59,320 ล้านบาท และเงินสดจ่าย 74,620 ล้านบาท (มีเงินสดยกมาจากปี 2565 จำนวน 100 ล้านบาท) ส่งผลให้รฟท.ขาดเงินสดไว้ใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2566 จำนวน 15,200 ล้านบาท 
 

จึงจำเป็นต้องกู้เงินจำนวนดังกล่าว เพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนในการใช้จ่ายดำเนินงาน การลงทุน การจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ และการชำระหนี้เงินกู้ คาดว่าจะเริ่มขาดเงินในช่วงเดือนตุลาคม 2565 
 

สำหรับเงินวงเงินกู้ระยะสั้น 1,500 ล้านบาท จะเป็นวงเงินสำรองสำหรับกรณีที่ต้องมีการใช้จ่ายเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบัน ร.ฟ.ท. มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการต้องบริหาร ขณะที่รายจ่ายด้านต่างๆ อาทิ การบำรุงรักษาทาง อาณัติสัญญาณ รถจักรล้อเลื่อนและการบริหารต่างๆ ยังคงเดิม แต่ ร.ฟ.ท. ยังมีภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องและอาจประสบภาวะเงินสดขาดมือในบางช่วง จึงจำเป็นต้องเปิดวงเงินกู้ระยะสั้นในกรอบ 1,500 ล้านบาทข้างต้น สำหรับการสำรองเงินให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย การดำเนินงานต้องกระทบกระเทือนหรือหยุดชะงัก


ทั้งนี้จะกู้เงินได้ภายหลังจากวงเงินกู้ได้รับการบรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ที่ผ่านมา ครม. มีมติเห็นชอบให้ รฟท. ดำเนินการกู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องและเงินกู้ระยะสั้นมาอย่างต่อเนื่อง 

 

ติดตามคมชัดลึกได้ที่

Line: https://lin.ee/qw9UHd2-

YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ