เพื่อไทย โทษ รัฐประหาร ทำประชาชนเดือดร้อนเพราะ น้ำท่วม
เพื่อไทย โทษ รัฐประหาร ปี57 ทำ แผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านพัง จนประชาชนต้องเดือดร้อน เพราะ น้ำท่วม ทุกวันนี้
พรรคเพื่อไทยจัดเสวนา ย้อนแผนโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน ถ้าทำวันนั้น น้ำไม่ท่วมแบบวันนี้ ที่พรรคเพื่อไทย โดย ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกฝ่ายสามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากได้อย่างยั่งยืน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความแม่นยำในการบริหารจัดการน้ำใน 4 คือมีพื้นที่เป้าหมาย ชัดเจน มีวัตถุประสงค์ แม่นยำ มี มี แผนงาน ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
แผนบริหารจัดการน้ำที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้เคยจัดทำไว้ภายหลังเกิดน้ำท่วมในปี 2554 มีโครงการที่ชัดเจนและไม่ได้ใช้งบประมาณในการจัดทำแผนโครงการแม้แต่บาทเดียว โดยมีทั้งหมด 8 โมดูลคือการสร้างอ่างเก็บน้ำ 16 แห่ง ในลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน สร้างพื้นที่น้ำล้อม เพื่อป้องกันพื้นที่ชุมชนและเขตเศรษฐกิจ จัดทำทางผ่านน้ำ หรือ Flood ways รวม 3 จุด สามารถระบายน้ำได้ 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จัดทำคลังข้อมูลและการบริหารงานที่เป็นเอกภาพ สร้างอ่างเก็บน้ำใน 17 ลุ่มน้ำชี และสร้างพื้นที่ปิดล้อมชุมชนและเขตเศรษฐกิจของ 17 ลุ่มน้ำชี
ดร.ปลอดประสพ กล่าวว่า แผนบริหารจัดการน้ำ ตั้งวงเงินงบประมาณในการกู้เงินไว้ที่ 3.5 แสนล้าน แต่ในการแก้ไขปัญหาในลุ่มน้ำภาคเหนือ และกลางทั้งระบบ ใช้งบประมาณอยู่ที่ 229,000 ล้านบาท แก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบ ส่วนที่เหลือสามารถนำไปแก้ไขปัญหาน้ำในลุ่มน้ำชี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีปัญหาน้ำหลากจากสภาพพื้นที่ที่มีความสูงชันได้
“ถ้าไม่เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร และพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต่อจนจบอีก 2 ปีครึ่ง โครงการเหล่านี้จะเสร็จเกือบหมดเป็นส่วนใหญ่ “
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ บางพื้นที่ของลาดกระบังน้ำท่วมหนักกว่าปี 2554 ส่วนตัวจำได้ว่าน้ำท่วมในปี 2554 ส่งสัญญาณจากฝนตกตั้งแต่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาบริหารประเทศก็ทำงานทันที เมื่อเกิดน้ำท่วมในปี 2554 รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็เร่งทำโครงการบริหารจัดการน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท แต่ขณะนี้ผ่านมาเกือบ 10 ปี ประเทศไทยยังคงเกิดปัญหาเดิมซ้ำซาก จึงขอกล่าวโทษพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยึดอำนาจไปจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนทำให้ไม่สามารถเดินหน้าแผนบริหารจัดการน้ำได้ ทั้งหมดคือความผิดพลาดล้มเหลวมาตลอด 8 ปี ที่ประเทศไทยไม่ได้อะไรเลย พรรคเพื่อไทยรู้ปัญหา รู้วิธีแก้ เหลือแค่โอกาสในการลงมือทำเท่านั้น
วิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า ในปี 2554 ฝนตกติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากมีพายุเข้ามาพาดผ่านประเทศไทยหลายลูก ทำให้น้ำในเขื่อนสูงเกินกว่าปริมาณการกักเก็บ จึงต้องระบายออก และน้ำในทุ่งใต้เขื่อนมีปริมาณสูง ทำให้น้ำที่ระบายออกจากเขื่อนรวมกับน้ำในทุ่ง มีจำนวนมากเกินกว่า ลำน้ำใหญ่ทางภาคเหนือ คือ ปิง วัง ยม น่าน จะรับไหว ทำให้แก้มลิงซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำเต็มทุกพื้นที่
เมื่อพื้นที่รับน้ำและระบายน้ำมีไม่เพียงพอ จึงทำให้น้ำ ไหลลงสู่ภาคกลางอย่างรวดเร็ว และระบายออกสู่ทะเลไม่ทัน รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ มองเห็นปัญหาว่าสิ่งจำเป็นในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม คือการชะลอน้ำจากแหล่งน้ำ และการระบายน้ำจากพื้นที่กลางน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา บางปะกง และท่าจีนออกสู่ทะเลอย่างมีประสิทธิ จึง เป็นที่มาของการจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ หากรัฐบาลได้ดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2557 วันนี้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งจะหมดไป