หมดสิทธิ์ ปิดสวิตซ์ส.ว. แก้รัฐธรรมนูญ ส่อแท้งอีกแล้ว

การประชุมรัฐสภา เริ่มขึ้นเมื่อเกือบ 10.00 น.ที่ผ่านมา โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจ อยู่ที่เรื่องด่วนที่ 6 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสอโดยภาคประชาชน เป็นการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ให้อำนาจ สมาชิกวุฒิสภา มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี

โดยมติวิป 3 ฝ่าย มีมติเกี่ยวกับการพิจารณา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้เวลาผู้เสนอร่างฯรวมทั้ง 5 ฉบับ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง

ฝ่ายรัฐบาล 6 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 6 ชั่วโมง  ส.ว. 6 ชั่วโมง และประธานในที่ประชุม 1 ชั่วโมง คาดว่าการประชุมวันแรกจะพิจารณาจนเลยเวลาเที่ยงคืน จากนั้นวันที่ 7 กันยายน จะเริ่มประชุมอีกครั้งเวลา 09.00 น. คาดว่าไม่เกิน 19.00 น. จะเริ่มลงมติด้วยการขานชื่อ ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง

ก่อนหน้านี้ มีความพยายาม แก้รัฐธรรมนูญในประเด็น ปิดสวิตซ์ สมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี มาหลายครั้งแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ เพราะรัฐธรรมนูญ กำหนดว่า ต้องมีเสียงสมาชิกวุฒิสภา รับหลักการในวาระแรก 1ใน 3 ของสมาชิก วุฒิสภา เท่าที่มีอยู่ หรือราว 80 คนเศษ  สมชาย แสวงการ วิปวุฒิสภา บอกว่า การลงมติ เป็นเอกสิทธ์ของสมาชิกรัฐสภา ไม่มีใครสั่งการใดๆได้  

 

อำนาจการเลือกนายกรัฐมนตรีของสมาชิกวุฒิสภาที่ เหลืออีกปีเศษนี้ ล้วนมีผลต่อทิศทางการเมืองไทย ทั้งในระยะเวลาอันใกล้ หากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้พล.อ.ประยุทธ์ พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่  อำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ของสมาชิกวุฒิสภา คือกลไกสำคัญที่เปิดโอกาสให้มีนายกรัฐมนตรี นอกบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง

 

สมชัย ศรีสุทธิยากร คณะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ประเมินเสียง ส.ส. และ ส.ว. ประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี สำหรับการประชุมรัฐสภา 6-7 กันยายน 2565ว่า

-สิ่งที่ต้องการ คือ คะแนนเสียงรวมเกินครึ่งของรัฐสภา คือ ประมาณ 365 เสียง โดยในจำนวนดังกล่าว ต้องมี สมาชิกวุฒิสภาอย่างน้อย 84 เสียง

 

-สิ่งที่คาดว่าจะได้จาก ฝั่ง ส.ส. คือ น่าจะความเห็นไปในทางเดียวกันทั้ง 100% ว่าสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว เพราะหากพรรคใดบอกว่า อยากให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี  คงเป็นประเด็นจุดอ่อนในการหาเสียง  ดังนั้น คะแนนฝั่ง ส.ส. น่าจะได้จาก ส.ส. เกือบทั้งหมดที่มาประชุม ประมาณ 300-400 เสียง

 

-สิ่งที่คาดว่าจะได้จากฝั่ง ส.ว. คือ น่าจะได้เสียงสนับสนุนไม่เกิน 40 เสียง จาก ส.ว.ที่มาประชุมประมาณ 150 คนจาก 250 คน โดยส่วนใหญ่ที่เหลือจะเลือกใช้วิธีงดออกเสียง มากกว่า ลงมติไม่รับ

 

-หากแก้ไขสำเร็จ ถือว่าเป็นสิ่งดีต่อระบบการเมืองไทย ที่คืนสู่ภาวะปกติ เข้าสู่การแข่งขันทางการเมืองที่เป็นธรรม ลดความขัดแย้งในสังคม  แต่หากไม่สำเร็จ ถือเป็นเชื้อต่อความสำเร็จของฝ่ายประชาธิปไตยในอนาคต  ชนะคือชนะ และ แพ้คือชนะ เช่นกัน

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

Line:https://lin.ee/qw9UHd2-

YouTube:https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote

https://www.komchadluek.net/entertainment/524524