ข่าว

ดี-ร้าย"เปิดประเทศ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายกฯประกาศเปิดประเทศใน120 วันซึ่งจะถึงกำหนดกลาง ต.ค.แต่สถานการณ์ระบาด"โควิด-19"ยังสูง มีผู้ติดเชื้อเพิ่มแต่ละวันหลักพันคนจนเตียงเริ่มไม่พอวัคซีนก็ยังฉีดไม่ได้ตามเป้าและ"หมอ"ซึ่งเป็นคนหน้างานโอดครวญ"พวกเราเหนื่อยเหลื่อเกิน"ขอให้ทบทวน..แล้วจะเดินทางไหนดี

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ครม.ห็นชอบแผนการเปิด“ภูเก็ต”หรือ“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”(Phuket Sandbox)และพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี โดยจังหวัดเตรียมพร้อมตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีประกาศเปิดประเทศภายใน 120 วัน

ขณะที่เมื่อวานนี้( 23 มิ.ย. )ประธานหอการค้าไทย"สนั่น อังอุบลกุล"ที่เข้าพบนายกฯที่ทำเนียบรัฐบาลก็สนับสนุนรัฐบาลเปิดประเทศภายใน120 วันอย่าไปกลัวโควิด-19อยู่กับเราไปอีกนานและชี้ว่าถึงเวลานำเงินนอกประเทศเข้ามาช่วยฟื้นฟูและเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติว่าประเทศไทยมีความพร้อมแล้วซึ่งสิ่งที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์คืนคือเงินใหม่ที่จะเข้ามาจากต่างประเทศเพราะทุกวันนี้เรากินบุญเก่าใช้เงินเดิมเยียวยาและหามาตรการกระตุ้นเท่านั้นซึ่งไม่เพียงพอโดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีพึ่งหวังเงินจากรัฐบาล ดังนั้นสรุปแล้วการท่องเที่ยวจะต้องเปิดเพื่อให้นักธุรกิจนักลงทุนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยและคนไทยก็จะได้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปหาออเดอร์สินค้าต่างๆเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้

"นายกฯบอกว่าจะหาวัคซีนมาฉีดให้กับคนไทยให้ได้ 50 ล้านคนซึ่งทำให้เรามีความสบายใจขณะเดียวกันหน่วยงานด้านสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ก็ต้องหาวิธีไม่ให้เกิดโรคระบาดซ้ำหนักมากขึ้นหากเรามัวแต่กลัวอย่างเดียวขณะที่คนอื่นเขาเปิดไปแล้วเราก็จะเสียโอกาสดังนั้นการฉีดวัคซีนโควิด-19เพียงอย่างเดียวก็จะทำให้คนไทยเรามีความปลอดภัยเช่น บางประเทศที่วัคซีนเข้าถึงเศรษฐกิจของเขาก็กลับคืนมาเร็วมากและใครที่จะเข้าประเทศเราก็มีมาตรการป้องกันที่รัดกุม"

แต่ผู้ที่อยู่ฝั่งไม่เห็นด้วยกับการเปิดประเทศภายใน 120 วันก็คือ“แพทย์”ซึ่งเป็นคนหน้างาน  

เมื่อวันก่อน พญ.นิษฐา เอื้ออารีมิตร หรือหมอแนต ได้โพสต์ข้อความระบายความอัดอั้นของคนหน้างานลงในเฟซบุ๊ก “Nittha Oer-areemitr”ถึงกรณีการเปิดประเทศใน 120 วันว่า ตั้งแต่วันที่ท่านนายกฯบอกว่าจะเปิดประเทศอีก 120 วันสถานการณ์โควิดก็ดูเหมือนแย่ลงทุกวัน ทุกวัน สามวันนี้อัตราpositive ของที่รพ.อยู่ที่ 10-20%คนไข้ที่มาส่วนมากบอกว่าติดจากไหนไม่รู้ รพ.หลายแห่งกลับมาเตียงเต็มอีกครั้งแต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนเพราะคนไข้เคสเดิมเรายังให้กลับบ้านไม่ได้คนไข้ที่นอนอยู่ก็กำลังแย่ลง

คนไข้ใน icu ยังล้นปรี่อยู่ยิ่งไปกว่านั้นบุคลากรของเราลดลงเพราะป่วยติดโควิดและกักตัวแต่เหมือนรัฐบาลยังมั่นใจในทุกอย่างไม่เห็นถึงความรุนแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นยังคิดว่าวัคซีนspeed นี่อีก 110 วันช่วยประเทศได้แต่ความเป็นจริงนั้นสงขลากำลังถูกถล่มด้วยสายพันธุ์แอฟริกาหรือbeta

กทม.เละเทะไปด้วยสายพันธุ์ alpha จนไม่มีเตียงให้นอนแล้วต้องเห็นภาพนอนกลางเต้นท์ข้างถนน รอเตียงส่วนสายพันธุ์อินเดียนั้นรอวันอยู่อีกไม่นานก็จะเพิ่มขึ้นในclusterใดclusterหนึ่ง

ส่วนปัญหาเดิมๆตามตะเข็บชายแดนก็ยังเข้ามาได้เรื่อยๆล่าสุดคุยกับแรงงานพม่าที่เพิ่งข้ามมาก็บอกว่าจ่ายไม่ถึง 2 หมื่นบ่อนต่างๆก็ยังดำเนินการได้ปกติผับบาร์ก็ยังแอบเปิดได้อยู่จับได้ก็เงียบๆกันไป

แล้วทำไมวัคซีนถึงไม่ช่วยก็เพราะวัคซีนที่จะช่วยนั้นมันช้ามากๆถ้าเราตั้งธงจะเปิดประเทศอีก120 วันวัคซีนนี้ควรจะได้ฉีดไป50%ของคนทั้งประเทศซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยแถมฉีดก็ไม่ได้กันติด100%ยังไปแพร่ได้เรื่อยๆให้กับคนที่ยังไม่ฉีด

อยากให้เสียงนี้สะท้อนถึงผู้มีอำนาจทบทวนมาตรการเปิดประเทศต่างๆนานาไม่ได้ขอให้ปิดตายจนอดตายแต่ขอให้ทบทวนสิ่งที่พลาดไปแก้ไขให้ดีเสียก่อนพวกเราเหนื่อยเหลือเกินแล้วจริงๆ

เช่นเดียวกับ  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์​มหาวิทยาลัย  ชี้ไทยมีโอกาสเกิดการระบาดระลอก 4 ในช่วงปลายปี จากปัจจัยเปิดประเทศหนุนการท่องเที่ยว

"สิ่งที่คาดการณ์จากบทเรียนที่เห็นในประเทศอื่นคือ การที่จำนวนติดเชื้อหลายพันคนต่อวันมาตลอด(อย่างประเทศไทย) โอกาสปะทุซ้ำรุนแรงจะเกิดขึ้นได้ราวทุก 4-6 สัปดาห์ ช่วงที่ต้องระวังคงเป็นต้นถึงกลางเดือนกรกฎาคม ด้วยปัจจัยเสี่ยงที่เรามีตอนนี้คือ มาตรการที่ทำไม่เพียงพอในการควบคุมการระบาดได้, ศักยภาพของระบบการตรวจคัดกรองโรคมีจำกัด, อาวุธป้องกันที่เลือกใช้นั้นมีข้อจำกัดทั้งในเชิงปริมาณและประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์กลายพันธุ์, และสำคัญที่สุดคือ การที่กำลังจะเปิดประเทศ นอกจากนี้ไตรมาสสุดท้ายของปี จะมีโอกาสที่จะเกิดการระบาดระลอก 4 จากปัจจัยหนุนเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ที่จะทำให้การระบาดของโรคที่กระจายไปทั่ว แฝงในชุมชนอยู่แล้ว จะมีการแพร่เชื้อติดเชื้อได้มากขึ้น เพราะพบปะกัน ค้าขายและบริการมากขึ้นหากไม่เคร่งครัดในการป้องกัน มีโอกาสที่เราจะติด Top 10 ของโลก หรือ Top 5 ของเอเชียได้ ดังนั้นต้องไม่ประมาท"

 

 สุดท้ายก็ต้องวัดใจรัฐบาล ว่า จะเลือกเงินตรา กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ หรือจะเลือกความปลอดภัยสุขภาพของประชาชนจาก “โควิด-19” แม้ว่าตอนนี้จะเดินไปในแนวทางเปิดประเทศตามที่นายกฯลั่นวาจาไว้ก็ตาม แต่ถ้าจะทบทวนใหม่ ก็ยังทัน 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ