ข่าว

"ครม."เคาะ "เปิดภูเก็ต-สมุย "ก.ค.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ครม.เคาะแล้วเปิดภูเก็ต 1 ก.ค.นี้ พร้อมเปิดสมุยรับนักท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทย 15 ก.ค.พร้อมกับตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการเปิดเมือง ซึ่งการเปิดเกาะภูเก็ต และะสมุย เป็นหนึ่งในนโยบายนับถอยหลังเปิดประเทศของนายกฯภายใน 120 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในเดือน ต.ค. นี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบแผนการเปิด "ภูเก็ต" หรือ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"(Phuket Sandbox)และพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.เสนอ

ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ต จะได้ตั้งคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการเปิดเมืองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำหน้าที่บริหารจัดการควบคุมการเข้าออกภูเก็ตของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งที่เดินทางจากต่างประเทศและภายในประเทศ ตั้งแต่เริ่มเข้ามาจนกระทั่งเดินทางออกจังหวัด

จังหวัดสุราษฎร์ธานี(เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) มีระบบกำกับควบคุมในที่พัก ระบบควบคุมในการเดินทาง Sealed Route โดยที่พักและบริษัทนำเที่ยวและมีระบบควบคุมคัดกรองด่านเข้า-ออกทางอากาศและทางเรือทั้ง 3 เกาะ

รายงานข่าวระบุว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอ ครม.ถึงแนวทางการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินำร่อง จ.ภูเก็ต เริ่ม 1 ก.ค.2564 ผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และเปิด จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า)เริ่ม 15 ก.ค.นี้ โดยจังหวัดเตรียมพร้อมตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีประกาศเปิดประเทศใน 120 วัน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังเคารพธงชาติ มีการถ่ายทอดแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี “ตั้งเป้าประเทศไทยต้องเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน” 

โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปในอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือการเปิดประเทศและรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้งนี่คือหนทางสำคัญหนทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน 

"วันนี้ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศ ทั้งประเทศ ให้ได้ภายใน 120 วัน นับจากวันนี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมได้เร็วกว่า ก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น… ยกเว้นหากมีสถานการณ์ร้ายแรงใหม่เกิดขึ้นหรือมีความจำเป็นจริงๆ ก็ให้พิจารณาเป็นกรณีไป”

“ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่าอยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายใน สำหรับประเทศไทยของเรา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ครับ”

 เราได้เห็นกันแล้วและต้องทำใจว่า ทั่วโลกยังจะต้องอยู่กับไวรัสนี้ต่อไปอีกซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถรอจนไวรัสนี้หมดไปจากโลกและเราก็ไม่สามารถรอ จนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสกันถ้วนหน้าก่อน แล้วจึงค่อยเปิดประเทศ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับโรคภัยอื่นๆ จัดการโควิดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้และให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับออกมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง นี่คือนโยบายของผม และเป็นเป้าหมายที่ผมตั้งไว้”

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ