ข่าว

กมธ.งบ 65 จ่อปรับเพิ่มงบให้กระทรวงสาธารณสุข หลังพรรคร่วมอภิปรายถล่มหนัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กมธ.งบ 65 จ่อปรับเพิ่มงบให้กระทรวงสาธารณสุข- กรมควบคุมโรค หลังถูกพรรคร่วมอภิปรายถล่มหนัก

การประชุมกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ2565 วันนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองประธานกรรมาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมวันนี้จะมีการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงการคลัง โดยภาพรวม และจะเปิดโอกาส ให้กรรมาธิการ ได้ซักถามกันอย่างเต็มที่

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้าน เรียกร้องให้มีการตรวจสอบงบลับของส่วนราชการต่างๆนั้น ยอมรับว่างบลับ ก็เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณ ที่มีการจัดสรรอยู่ทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติแต่ละหน่วยงาน จะเปิดเผยให้กรรมาธิการพิจารณาแบบกว้างยู่แล้ว ว่า มีความจำเป็นอย่างไรใช้ในเรื่องอะไรบ้าง เพราะอาจเป็นงบที่ใช้ร่วมกันหลายหน่วยงาน 

ส่วนจะตรวจสอบได้หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า เรื่องนี้ค่อยว่ากันอีกทีพร้อมเรียกร้องให้คนที่อ้างว่ามีงบลับซ่อนอยู่ ช่วยบอกด้วยว่าอยู่ในส่วนใด เพราะงบลับที่ว่ามาแต่ละกระทรวงก็มีเปิดเผยอยู่แล้ว และยอดงบประมาณก็ไม่ได้มาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า งบของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการอภิปรายไม่เห็นด้วยจำนวนมาก จะดำเนินการอย่างไร นายวิรัช ยอมรับว่า อาจจะมีการปรับเพิ่ม โดยเฉพาะในส่วนของกรมควบคุมโรค ที่จะต้องรับผิดชอบ ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ โควิด-19

ทั้งนี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  ไม่เพียงแต่ฝ่ายค้านเท่านั้นที่อภิปรายโจมตีร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ฯ ที่จัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุขน้อย ในขณะที่กระทรวงกลาโหม กลับได้งบประมาณมากกว่า 

แต่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย ก็นำเรื่องนี้ไปอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย ซึ่งเป็นรอยร้าวหนึ่งระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทย

อย่าง นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้อภิปราย ไม่เห็นด้วยถึงการขอเสนอจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ที่โจทย์ใหญ่ในการจัดทำงบประมาณ ปี 2565 คือการแก้ไขปัญหาโรคโควิด 19 แต่สำนักงบประมาณกลับจัดทำงบประมาณอย่างพิลึกพิลั่น กระทรวงสาธารณสุขกลับถูกตัดงบประมาณไปกว่า 4,300 ล้าน 

จึงอยากย้ำถึงสำนักงบประมาณว่า ขณะนี้เราต้องทำสงครามโรค ที่ต้องใช้ความมั่นคงทางสาธารณสุขเป็นอาวุธ ในการต่อสู้ แต่สำนักงบประมาณกลับไม่เห็นความสำคัญจัดงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ในลำดับ 6 โดยเฉพาะกรมควบคุมโรคหัวหอกสำคัญที่ในการควบคุมสถานการณ์โควิด ที่ถูกลดงบประมาณไปเกือบ 500 ล้าน เช่นเดียวกับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบสวนโรคโควิด 19 กลับถูกตัดงบประมาณไป 100 กว่าล้านบาท  

นอกจากนี้สำนักงบประมาณยังจัดสรรงบประมาณที่ไม่คำนึงถึงการฉีดวัคซีน ของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะต้องใช้งบประมาณในการจัดสรรอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เอาภาระเอาความรับผิดชอบไปให้บุคลากรทางการ  แพทย์แต่กลับไม่สนับสนุนงบประมาณให้ ถือเป็นการทำวาระแห่งชาติไปเป็นภาระของกระทวงสาธารณสุข
นายกรวีร์ ยังชี้ให้เห็นถึงความสับสนในการบริหารสถานการณ์โควิด 19ในกรุงเทพมหานคร ที่ล้มเหลว จากการไม่ให้กระทรวงสาธารณสุขมีบทบาทในการแก้ปัญหา เพราะเป็นอำนาจของ ศบค.และ กทม. แต่ทั้ง 2 ฝ่ายกลับบริหารงานไม่ชัดเจน มีการระดมวัคซีนจากสรรส่วนของต่างจังหวัดมาช่วยแก้ปัญหาใน กทม.  
“แม้ผมไม่เห็นด้วย แต่ถ้าทำให้ปัญหาใน กทม.มันจบเ ราก็พร้อมเสียสละ แต่การทำงานระหว่าง ศบค. และ กทม. กลับออกมาตรการไม่ตรงกัน ถือเป็นการบริหารงานอย่างบกพร่อง ไร้ประวิทธิภาพ ต่างจากการบริหารจัดการสถานการณ์ในต่างจังหวัดของหน่วยงานสาธารณสุขเอง ที่มีประสิทธิภาพ ควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ