"แรมโบ้" ซัด "โภคิน" หากอยากเข้ามาบริหารประเทศ ขอให้ใช้ช่องทางตามกระบวนการทางกฎหมาย เลือกตั้งใหม่เข้ามา

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย ร่วมอภิปรายออนไลน์ หัวข้อ “ทางออกจากวิกฤตประเทศไทย” ถึงการบริหารงานของนายกฯและรัฐบาลพร้อมแนะนายกฯ ควรลาออก เพราะบริหารงานล้มเหลว และควรมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยนายเสกสกล ย้ำว่านายกฯ และรัฐบาล ได้ทำงานให้กับบ้านเมือง และช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าทำมากกว่ารัฐบาลอื่น

“หากการเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งเป็นเพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของนายโภคิน และพรรคไทยสร้างไทย ที่อยากเข้ามามีอำนาจเองนั้น ตนเองขอบอกว่าไม่ประสบความสำเร็จ  นายกฯยังเหลือเวลาในการบริหารงานอีกปีเศษ หากพรรคไทยสร้างไทยอยากเข้ามาก็รอเลือกตั้งใหม่ ทำตามกติกาที่มีอยู่ อย่ามาอาศัยทางลัดให้นายกฯลาออก ยิ่งในช่วงที่ประเทศเกิดวิกฤตเช่นนี้ นายกฯ ยิ่งต้องอยู่เพื่อทำงานให้กับประชาชน 

และที่นายโภคิน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายของไทยเอื้อให้แต่นายทุนและเจ้าสัว เกิดความเหลื่อมล้ำนั้นไม่เป็นความจริง นายโภคินอย่าไปตีความเอาเอง ทั้งนี้ตนเองยังอยากให้นายโภคินย้อนกลับไปดู ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตรได้ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์อะไรให้ธุรกิจตนเองและครอบครัว และตั้งแต่สมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯนั้นก็จ้องแต่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ล้างมลทินให้กับพี่ชายของตัวเองเท่านั้น ไม่เกิดประโยชน์เพื่อบ้านเมือง หรือประชาชนเลย ในโภคินก็เป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์รับรู้เรื่องนี้ดีกว่าคนอื่นเสียอีก จนทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงบนท้องถนน บาดเจ็บล้มตายไปมากมาย นายโภคินและคนในตระกูลชินวัตรก็ไม่เคยเห็นออกมาแสดงความรับผิดชอบเลย พร้อมถามกลับหรือว่านายโภคิน ชอบที่จะต้องมีการออกกฎหมายในลักษณะนี้หรือใช่หรือไม่ ทำไมไม่ลองมองย้อนกลับไปดูในอดีต ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นให้อับอายขายขี้หน้าตัวเองบ้าง ตรงกับสุภาษิต"ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง"น่าละอายใจที่สุด

"ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ มีคนเบื่อหน่ายเต็มบ้านเต็มเมือง ว่าเป็นระบบทักษิณ ระบบยิ่งลักษณ์และ เป็น"เผด็จการรัฐสภา" ทำไมนายโภคินไม่เชิญชวนคนออกมาขับไล่หรือวิจารณ์แบบนี้บ้าง หรือว่านายโภคินถูกอะไรปิดบังปากเอาไว้จึงไม่กล้าออกมาพูดความจริง"

ส่วนการออกกฏหมาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นนายเสกสกลย้ำว่าเป็นเรื่องของรัฐสภาฯไปพิจารณา ซึ่งนายกฯไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ แต่ยังย้ำอยู่เสมอว่าพร้อมให้การสนับสนุนทุกเรื่องอยู่แล้ว