ข่าว

"นายกฯ" ตรวจเยี่ยม จุดฉีดวัคซีน นอกสถานพยาบาล เตรียมเพิ่มจุดรอบกรุง- ขยายไปพื้นที่ต่างจังหวัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยม จุดฉีดวัคซีน นอกสถานพยาบาล เตรียมเพิ่มจุดรอบกรุง ขยายไปพื้นที่ต่างจังหวัด ยืนยันวัคซีนไทยมีประสิทธิภาพ ลั่นฉีดวัคซีนให้คนไทยเข็มแรกในเดือนมิถุนายน  บอกวันนี้ทำงานแข่งกับเวลา ขออย่าเสียเวลากับความขัดแย้ง วอนสื่ออย่าขยายข่าวเฟคนิวส์

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสนั่น อังอุบลกุลประธานหอการค้าไทย ตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีน โควิด -19 นอกโรงพยาบาล บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ร่วมมือกับสาธารณสุข มหาดไทย หอการค้าอุตสาหกรรม ทั้งหมดขับเคลื่อนไปในทางเดียวกัน ให้สอดคล้องกับวาระแห่งชาติ ถือเป็นความร่วมมือในการกระจายวัคซีนของภาครัฐและเอกชน ขณะนี้มี 14 แห่งและจะขยายเป็น 25 แห่ง ภายในวันนี้และจะมีการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อลดความแออัด ยอมรับว่าการจัดหาวัคซีนไม่ง่าย แตาไทยมีวัคซีนมากที่สึดในอาเซียน และจะพยายามปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยทั้งหมดให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน ลองกับยาวัคซีนของไทยมีความปลอดภัย โดยรัฐบาลจะดูแลคนไทยรวมไปถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานภายในประเทศไทย ตั้งแต่แรงงานต่างด้าวนักธุรกิจไปถึงฑูต เพราะถือว่ามาช่วยสร้างเศรษฐกิจ  พร้อมขอประชาชน อย่าตระหนกตื่นกลัว บางทีรับฟังข่าวสารมาหลายทาง รัฐบาลมีความมุ่งหมายชัดเจนในการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทุกคนอย่างรวดเร็วและครบถ้วน โดยฉะนั้นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนแล้ว ซึ่ง

ทั้งนี้รัฐบาลใช้มาตรการช่วยเหลือประชาชนลงไป แต่ไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็ประทังไปได้ก่อน เนื่องจากมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด ร้านค้า ร้านอาหารต้องดูแล ศบค.และ กทม.จะต้องดูแลพร้อมขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง จะให้รัฐบาลคิดยิบคิดดย่อยก็ไม่ไหวต้องช่วยกัน ตนห่วงใยคนทำงานคนเดินทางบ่อยๆ แม้กระทั่งภาคธุรกิจต้องดูแลเขาด้วย ไม่ใช่คนรวยได้สิทธิ์ฉีดก่อน ตนเชื่อมั่น ว่าประเทศไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน หากสถานการณ์โควิด-19คลี่คลาย วันนี้รัฐบาลยินดีขอบคุณและพร้อมที่จะร่วมมือกับหน่วยงานให้ฉีดเร็วขึ้น เนื่องจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไปด้วย แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือการแพร่ระบาดในครอบครัว

ส่วนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ ที่มีการแพร่ระบาดในต่างประเทศ ขณะนี้ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข รับทราบ มีการควบคุมและคงตามด่านชายแดน เข้าออกเครื่องบิน เมื่อเข้ามี พบว่าติดเชื้อก็ต้องนำตัวมารักษา  ไม่ว่าจะเชื้ออะไรก็แล้วแต่ หลายคนบอกสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังไม่ดีมาก แต่ตนก็มองว่าดีในระดับหนึ่ง และต้องช่วยกันทำงานแข่งกับเวลา ไม่รอถ้าใครได้ทุกเรื่อง อย่าเสียเวลากับความขัดแย้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการแก้ปัญหาได้ยาก ตนขอร้อง

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าไม่ได้รวบอำนาจยังทำงานเป็นทีม และต้องฟังหมอ นายกไม่ได้จบหมอ แต่ในยุคบริหารได้ ผ่านรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ขออย่ารังเกียจซึ่งกันและกันเลยเราคือคนไทยด้วยกันทั้งหมด ต้องต่อสู้กับโควิด -19 ไปด้วยกัน เพื่อชาติและประชาชนทุกหมู่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นใครตนไม่รังเกียจทั้งสิ้น ไม่แบ่งแยกใคร สื่อต้องช่วยกันดู ข่าวที่มันไม่ใช่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ ก็อย่าไปขยายให้เขา ไม่อย่างนั้นก็ไม่จบ คนจะก็จะไม่กล้ามาฉีด

สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีน โควิด -19 กรุงเทพฯและหอการค้าไทย เป็นหนึ่งในสิบสี่แห่ง ด้วยความร่วมมือการฉีดวัคซีน โควิด -19 ระหว่างกรุงเทพฯร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆอย่างครบถ้วนอาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดันจุดฉีดวัคซีนและจุดพักสังเกตอาการหลังฉีด โดยสามารถให้บริการ 1,000 คน/วันตั้งแต่เวลา 08:00 น - 17:00 น โดยกลุ่มเป้าหมายแรกคือให้บริการกลุ่มบุคลากรด้านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

ทั้งนี้ จุดบริการ 14 แห่งทั่วกรุงเทพฯประกอบด้วยเซ็นทรัลลาดพร้าว ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี /เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร่วมกับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล /ไอคอนสยามร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช /True Digital Park ร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช/ สามย่านมิตรทาวน์ ร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ /SCG บางซื่อ ร่วมกับกรมการแพทย์/ เดอะมอลล์บางกะปิ ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี/ เดอะมอลล์บางแค ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์/ ธัญญาพาร์ค ความร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก/ เอเชียทีค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก / โรบินสันลาดกระบัง ร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก /โลตัส มีนบุรีร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก /บิ๊กซีบางบอน ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก/ PTT Station พระราม 2 ร่วมกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก/ โดยขณะนี้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่งโดยอยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์และบุคลากร ซึ่งหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 กรุงเทพฯหอการค้าไทยในพื้นที่กรุงเทพฯ  โดยหากเปิดสถานบริการครบทั้ง 25 แห่ง แต่ละแห่งจะมีศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000 -3,000 คนต่อวัน รวมสามารถให้บริการได้ 30,000 ถึง 50,000 ต่อวัน ซึ่งทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือนเพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ