ข่าว

'ภูมิใจไทย' เปิดศึกชน 'บิ๊กตู่' ล้มเหลวแก้โควิด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนพรรคภูมิใจไทย ทั้ง "อนุทิน-ศุภชัย" ยก "อำนาจพิเศษ" ตั้งศบค. โยนให้ "บิ๊กตู่" รับผิดชอบแก้โควิดล้มเหลว ถูกคนใกล้ชิดนายกฯ ดาหน้าเอาคืน ซัด "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น"

ภายหลังเครือข่าย “หมอไม่ทน” เปิดแคมเปญ ให้ร่วมลงชื่อขับไล่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พ้นจากกระทรวงสาธาณสุข ผ่าน www.change.org เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา 

ปรากฏว่าขณะนี้ยอดการร่วมลงชื่อทะลุ 2 แสนคนไปแล้ว พร้อมเดินหน้าตั้งเป้าหมายล่ารายชื่อให้ได้ถึง 300,000 คน ต่อไป

เหตุผลที่กลุ่ม “หมอไม่ทน” ออกแคมเปญดังกล่าว ก็เพราะเห็นว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาของการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นข้อ พิสูจน์แล้ว ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีความสามารถมากพอ ในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของไวรัส ทั้งเรื่องการวางนโยบาย การจัดการทรัพยากร การจัดหาวัคซีน และการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรทางการแพทย์

นอกเหนือไปกว่านั้น หลายครั้งบทสัมภาษณ์จากนายอนุทิน ยังทำให้เห็นชัดเจนว่า ไม่มีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสม ในการทำงานควบคุมกระทรวงที่เป็นกระทรวงหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การระบาดไม่สามารถควบ คุมได้

เริ่มต้นตั้งแต่ที่พูดว่า “เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา” เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ ก็แจ้งว่า “หมอไม่ระวังตัวเองจนติดโควิด 19-ไม่ได้ติดจากงาน แบบนี้ต้องหวดกัน” และบทสัมภาษณ์อีกมากมาย ที่ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน

“จากความล้มเหลวทั้งหมดนี้เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า เราไม่อาจจะให้เวลาอันมีค่าของเรา หมดสิ้นไปกับการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพไม่มากพอได้ ขอเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ลาออก และให้ผู้ที่มีความสามารถ มีความเหมาะสมมากกว่า เข้ารับตำแหน่ง ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังตกอยู่ในความวิกฤติินี้” แถลง การณ์กลุ่มหมอไม่ทน ระบุ

 

facebook sharing button

twitter sharing button

line sharing button

 

 

 

 

 

 

อัดถนัดใช้อำนาจพิเศษ

ในเวลาต่อมา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “การประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน และการตั้ง ศบค. ซึ่งการใช้อํานาจพิเศษเป็นสิ่งที่ นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถนัดที่สุด จึงไม่แปลกที่มีการเลือกใช้อํานาจพิเศษในการจัดการกับ “โรคระบาด” ซึ่งโครงสร้างของ ศบค.ได้ตัดการมีส่วนร่วมของภาคการ เมืองออกรวมถึงได้ตัดคณะรัฐมนตรีออกจากการทํางานใน ศบค.

โดยหน่วยงานที่นั่งหัวโต๊ะกําหนด ทิศทาง ของ ศบค.กลับเป็นหน่วยงานความมั่นคง นําโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติแทนที่จะเป็นสาธารณสุข เราจึงเห็นการมองโรคระบาดเป็นภัยความมั่นคง เป็นอริราชศัตรู ต่างจากการแก้ปัญหา โรคระบาดในรอบที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ประสบความสําเร็จ”

'ภูมิใจไทย' เปิดศึกชน 'บิ๊กตู่' ล้มเหลวแก้โควิด

                              นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

“บิ๊กตู่”ให้กำลังใจอนุทิน

ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ระบุภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า

“ผมให้กำลังใจกับรองนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง ถือว่าเป็นด่านหน้าเป็นหลักของรัฐบาล 

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือกับกลุ่มแพทย์ต่างๆ ว่าต้องเข้าใจว่าเรากำลังบริหารราชการกันอย่างไร เราน่าจะส่งเสริมกันมากกว่าที่จะขัดแย้งกัน ผมเคารพท่านทุกท่าน ไม่ว่าคุณหมอจากที่ไหนก็ตาม ไม่เช่นนั้นจะทำให้เราถูกมองว่าบริหารไม่ได้หรืออย่างไร ผมยืนยันบริหารได้ทุกอย่างในเวลานี้ไม่มีปัญหาอะไรในกระทรวงสาธารณสุขทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรี ระบุ

อัดภท.เอาชั่วใส่คนอื่น

แม้นายกรัฐมนตรีจะออกมาแสดงความเห็นให้กำลังใจ “อนุทิน” แต่เครือข่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ต่างดาหน้าออกมาปกป้อง “บิ๊กตู่” ถล่มเอาคืน “พรรคภูมิใจไทย” 

เริ่มจาก แรมโบ้อีสาน-ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ตอบโต้ นายศุภชัย ใจสมุทร แบบถึงพริกถึงขิงว่า ไม่นึกว่าพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย จะมีชุดความคิดในการทำงานที่คับแคบและเอาแต่ได้แบบนี้  

“ผมเข้าใจและเห็นใจที่ นายอนุทิน กำลังมีข่าว บรรดาหมอๆ ออกมาขับไล่ เลยทำให้คนในพรรคภูมิใจไทย อาจเกิดความเครียด แต่ว่าความเครียดดังกล่าว ไม่ควรมาลงที่นายกฯ เพราะการอ้างว่านายกฯ ตั้งศบค.ขึ้นมาแล้วทำให้รัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการโควิด นายศุภชัย คงจะหมายถึง นายอนุทิน ว่าไม่มีอำนาจทำอะไรเลย จึงทำให้โควิดระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ อย่างนี้เป็นการพูดเอาดีใส่ตัวแล้วโยนความผิดให้คนอื่น มันเป็นธรรมหรือไม่”

ดร.เสกสกล ระบุด้วยว่า “ผมสงสัยว่าใครสั่งให้ออกมาพูดทำลายนํ้าใจและทำลายบรรยากาศของการร่วมมือร่วมใจกันในครั้งนี้ หากพรรคภูมิใจไทยเห็นดีเห็นงามกับความคิดคับแคบและเอาตัวรอดแบบนี้ ต่อไปใครจะกล้าคบเป็นเพื่อน มิตรแท้ยามนี้ควรช่วยกัน แต่คนที่อ้างตนเป็นมิตรแท้ บางครั้งก็คบยากและไว้ใจยากจริงๆ”

อีกคนที่ออกมาปกป้อง พล.อ. ประยุทธ์ และถล่มพรรคภูมิใจไทย คือ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า นายศุภชัย อย่ามาใช้โอกาสนี้เพื่อเล่นเกมทาง การเมือง การปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นใน ศบค.ต้องย้อนกลับไปถามตัว นายอนุทิน หัวหน้าพรรคของพรรคท่านดูว่า ในส่วนความรับผิดชอบที่ขึ้นตรงกับเจ้ากระทรวง มีความผิดพลาดใดเกิดขึ้นหรือไม่ จนทำให้หน่วยงานความมั่นคง ต้องมานั่งหัวโต๊ะกําหนดทิศทาง ของ ศบค.แทนที่จะเป็นสาธารณสุข คำถามตรงนี้ นายอนุทิน น่าจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด

“พรรคภูมิใจไทยอย่าทำพฤติกรรม เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เวลาที่นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย สร้างผลงานได้ ก็ไม่เห็นจะพูด ให้ความดีความชอบกับภาพรวมของรัฐบาล แต่เวลาตัวเองเจอปัญหากับโยนมาให้เป็นความรับผิดชอบสูงสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เพียงผู้เดียว” นายสิระ ระบุ

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นศึก 3 เส้า ระหว่าง “ภูมิใจไทย-บิ๊กตู่-พลังประชารัฐ” เป็นปัญหาที่น่าจับตาต่อไปอย่างยิ่ง... 

 

ที่มา..หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,674 หน้า 12 วันที่ 29 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2564

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ