"ธนกร" วอนประชาชนอย่าร่วมชุมนุมไล่ "บิ๊กตู่"

    
2 เม.ย.2564   นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการนัดชุมนุมของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. เพื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมวันที่ 4 เมษายนนี้ว่า อยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า อย่าเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ เพราะไม่มีความชอบธรรมในการที่จะขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์

ตลอดระยะเวลา 7 ปี พล.อ.ประยุทธ์สร้างผลงานไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านคมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน มีรถไฟฟ้าครอบคลุมทุกเส้นทาง ทางด้านเกษตรการประกันรายได้เกษตรกร การปรับปรุงสวัสดิการและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การให้การช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คนพิการ สนับสนุน อสม. การช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นโครงการชิมช้อปใช้ เยียวยา 5,000 โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน ฯลฯ เพราะฉะนั้นแล้วตนไม่เห็นด้วยที่จะออกมาชุมนุมบนท้องถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ควรใช้เวทีสภาฯในการแก้ปัญหามากกว่า
     

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายจตุพรไม่มีความชอบธรรมที่จะเคลื่อนไหว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ตัวปัญหา แต่เข้ามาแก้ปัญหาให้กับประเทศที่กลุ่มของนายจตุพรและพรรคเพื่อไทยก่อไว้ ที่ผ่านมาการชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรีจะประสบความสำเร็จนั้นมีเหตุผลเดียวก็คือ มีการทุจริตคอรัปชั่น สร้างความเสียหายให้กับประเทศ เช่น การทุจริตจำนำข้าว แต่พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะออกมาชุมนุมขับไล่

นายจตุพรควรรออีก 2 ปีก็จะเลือกตั้ง แล้วให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ตัดสินใจผ่านการเลือกตั้ง ไม่ควรออกมาชุมนุมสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศ ที่สำคัญ ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตราการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เวลาที่จะมาขัดแย้งกัน และการชุมนุมก็เสี่ยงกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 นายจตุพรไม่ควรเอาชีวิตของประชาชนมาเป็นเดิมพัน และการชุมนุมจะไปเข้าทางคณะราษฏรที่เคลื่อนไหวแก้มาตรา112 ที่มีการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนเชื่อโดยสุจริตใจว่านายจตุพรมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ขอให้หยุดการเคลื่อนไหวดังกล่าวแล้วมาช่วยกับทำงานให้กับประชาชนจะดีกว่า