"ผู้กองมาร์ค" เร่ง "นายกตู่" เปลี่ยนวิกฤตผักตบชวา ให้เป็นโอกาส 

24 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหาผักตบชวาล้นแม่น้ำลำคลองในเกือบทุกสาย แถมยังประสบกับปัญหาน้ำเสียมาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยผักตบชวาถูกจัดอันดับวัชพืชรายแรงอันดับ 8 ของโลก

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ผักตบชวาเป็นตัวปัญหาของการสัญจรทางน้ำ และยังเป็นอีกสาเหตุหลักในการที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เพราะหากผักตบชวารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ก็จะทำให้การไหลของน้ำช้าลงกว่าปกติ กอรปกับยังเป็นตัวทำลายระบบนิเวศอีกด้วย เพราะในบริเวณที่มีผักตบชวาขึ้นหนาแน่น ก็จะทำให้แสงแดดไม่สามารถส่องลงไปในน้ำได้ ทำให้พืชน้ำที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำน้อยลง จึงทำให้ปลาและสัตว์น้ำต่างๆ ขาดอาหารและตายไปในที่สุด แถมยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายและบรรดาสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค อาทิเช่น หนู แมลงวัน ฯลฯ  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของโรค ไข้เลือดออก โรคฉี่หนู อหิวาตกโรค แถมยังเป็นที่พักอาศัยของสัตว์ที่มีพิษอีกด้วย 

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 7 ปี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ไม่สามารถทำได้ และผักตกชวาก็ยังมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทำให้ประชาชนที่พักอาศัยบริเวณริมน้ำ และใช้การสัญจรทางน้ำต้องประสบกับปัญหามาโดยตลอด ซึ่งอันที่จริงผักตบชวาก็มีประโยชน์ หากรัฐบาลเข้าใจและมีโครงการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากผักตบชวา ดังนี้

1. ส่งเสริมให้ใช้เป็นตัวช่วยในการบำบัดน้ำเสีย เพราะผักตบชวาสามารถดูดสารพิษ โลหะหนัก และสารอินทรีย์ต่างๆ ได้  แต่เราจะต้องจัดการเพื่อไม่ให้มีการเจริญพันธุ์โดยการเปลี่ยนผักตบชวาทุกๆ 8 สัปดาห์

2. ส่งเสริมให้ความรู้แก่ประชาชนว่าสามารถทานยอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน ของผักตบชวาได้ แต่ทั้งนี้จะต้องบริโภคผักตบที่อยู่ในน้ำที่สะอาดเท่านั้น 

3. ส่งเสริมให้นำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์โดยสับให้ละเอียดและผสมรำ ให้หมูหรือไก่กิน เพื่อลดค่าใช้จ่ายการซื้ออาหารสัตว์ของเกษตรกร

4. ส่งเสริมให้ประชาชนแปรรูปทำเป็นปุ๋ยธรรมชาติ เพื่อลดต้นทุนของเกษตรกร ในการลดปัญหาดินเสีย จากปุ๋ยเคมี เพราะในผักตบมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และไนโตรเจน 
 

5. ส่งเสริมแปรรูปเป็นเครื่องจักสานเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน เพราะผักตบมีคุณสมบัติ อึด ถึก และทนมาก โดยทำเป็นสิ่งของต่างๆ อาทิเช่น กระเป๋า ตะกร้า เก้าอี้ เปลญวน รองเท้า และสินค้าอื่นๆ อีกมาก

หาก พล.อ.ประยุทธ์ อยากที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็ไม่ควรที่จะมองข้ามปัญหาผักตบชวา เพราะประชาชนจำนวนมากนั้นลำบาก ซึ่งถ้าหากรัฐบาลสามารถนำวัชพืชนี้มาทำให้เกิดประโยชน์ได้ ก็จะสามารถช่วยลดปริมาณผักตบชวาได้อย่างรวดเร็ว