"ก้าวไกล"ไม่ส่ง 4 งูเห่าลงสมัครเลือกตั้ง-ริบเก้าอี้กมธ.คืน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า  การจัดการกับ 4 ส.ส.งูเห่า คารม พลพรกลาง - พีรเดช คำสมุทร- เอกภพ เพียรพิเศษ -ขวัญเลิศ พานิชมาท ที่มีการโหวตสวนมติพรรคก้าวไกลนั้น จะมีการตัดสิทธิในการส่งลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้าในนามของพรรค พร้อมกับเรียกร้องมาตรฐานด้านจริยธรรมในการคืนตำแหน่งกรรมาธิการต่างๆให้กับพรรค เพื่อให้พรรคก้าวไกลได้จัดสรรคนอื่นๆไปทำงานแทนและหากมีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการคณะอื่นๆทั้ง 4 คนจะไม่ได้รับการคัดเลือกจากพรรคอีก ตัดสิทธิทำกิจกรรมร่วมกับพรรค โควต้าต่างๆที่เป็นสัดส่วนของพรรคจะไม่ได้รับการพิจารณาทั้งสิ้น ย้ำจะไม่มีการขับออกจากพรรคแน่นอน

นายวิโรจน์ บอกว่า กรณีงูเห่าเกิดขึ้นได้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่ปัญหาหลักอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ซึ่งประชาชนไม่สามารถที่จะเข้าชื่อกันเพื่อถอดถอนรัฐมนตรีที่ตนเลือกมาเองได้ ดังนั้นพอส.ส.ได้ถูกเลือกเข้ามาในสภาฯ จึงกล้าทำอะไรที่หักหามน้ำใจประชาชาชนที่เลือกตนเองเข้ามา

 ทั้งนี้ไม่อยากให้นำกรณีที่ส.ส.ไม่ลงชื่อแก้ไขม.112 ไปรวมกับกรณีที่ส.ส.โหวตสวนมติพรรค ทั้ง 2 กรณีมีเจตนาที่แตกต่างกัน โดยกรณีของการอภิปรายถือว่าเป็นการแสดงเจตนาชัดเจน ว่าต้องการย้ายฝั่งย้ายค่าย ซึ่งก่อนหน้าในการประชุมทั้ง 4 คน ไม่มีการชี้แจงหรือพูดถึงความอึดอัดใจแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่นาย คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล ระบุว่า แนวทางวิธีการของพรรคก้าวไกลและนโยบายไม่ตอบโจทย์ที่จะพัฒนาประเทศและประชาชน นายวิโรจน์ บอกว่า เราไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อจะไป ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนเลือกพรรคไม่ใช่เลือกคน ไม่โกรธเพราะเป็นธรรมดาที่นายคารม จะใช้วิธีแสดงออกดังกล่าวเพื่อให้พรรคขับออก ซึ่งพรรคยืนยันจะไม่มีการขับออกเแน่นอน ( เมื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีการขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค หาก 4 ส.ส. ใช้วิธีลาออกจากสมาชิกพรรค ก็จะขาดสมาชิกภาพ ส.ส. ทันที )

ส่วนการอภิปรายประเด็นวัคซีนในฐานะที่เป็นคนเตรียมข้อมูล แต่ปรากฎว่า นายอนุทิน ได้รับคะแนนไว้วางใจสูงสุด ส่วนตัวไม่มีความเจ็บแค้น ยอมรับว่าอาจผิดหวังบ้างแต่ไม่ผิดคาดมาก ซึ่งตนให้สำคัญกับความเข้าใจของประชาชนมากกว่า อย่างน้อยประชาชนเข้าใจปัญหาทั้งหมดถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการกระจายความเสี่ยงนำวัคซีนโควิด-19 เข้ามาจากหลายแห่ง เพราะข้อมูลล่าสุด วัคซีนซิโนแวคสามารถฉีดให้กับ คนที่อายุระหว่าง 18-59 ปีเท่านั้น นั่นหมายความว่า รัฐบาลวางแผนผิดพลาดหรือไม่ เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน อย่างไรก็ตามทางพรรคจะมีการติดตามความคืบหน้าในการจัดสรรวัคซีนของรัฐบาลต่อไป