ข่าว

นายกฯสวนกลับฝ่ายค้านปูดกลางสภาคนใกล้เพื่อไทย อยากซบอก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายกฯสวนกลับ"จุลพันธ์"กลางสภาฯปูด คนใกล้เพื่อไทย อยากซบอก ไล่ไม่ต้องมา โว เป็นรัฐบาลแรก จ่ายเงินตรงประชาชนทุกกลุ่ม แจงไม่มีเอื้อเจ้าสัว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงใหม่ เพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศทำให้เศรษฐกิจแย่ มารอคอยเงินเยียวยาเล็กๆน้อยๆ เศรษฐกิจพังตั้งแต่การทำรัฐประหาร คนเดือดร้อนที่สุดคือประชาชน และธุรกิจขนาดเล็ก 
หัวข้อแรก ผู้นำเหลวไหล ประเทศล้มเหลว นายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้ความสามารถด้านระบบเศรษฐกิจ และเจตนาทำให้เกิดความเสียหายทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ผู้นำที่ดีต้องวิเคราะห์เป็น แต่นายกเหมือน “ลิงแก้แห”เป็นการแก้ไขเฉพาะหน้าไปวันๆ ไม่มีระยะกลางและระยะยาว มีแต่ระยะสั้น
 

นายกรัฐมนตรีต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ท่านแจกเงิน มุ่งแต่สร้างความนิยมชมชอบ ไม่นึกถึงประโยชน์ของชาติ 
นอกจากนั้นธุรกิจปิดตัวกว่า90เปอร์เซ็น เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กแย่ แต่ธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ได้ เพราะท่านเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าสัว  รัฐบาลตัดการทำมาหากิน เพราะการบริหารของพลเอกประยุทธ์ ท่านรับราชการทหารมาทั้งชีวิต ท่านไม่เข้าใจหัวใจของคนยากจน เพราะท่านไม่ยากจน ภาคแรงงานกลุ่มคนที่นายกทอดทิ้งมา7ปี การว่างงานคนไทยพุ่งสูงในรอบ11ปี  ตัวเลขที่น่าตกใจ ตัวเลขผู้เสมือนว่างงาน เพิ่ม4เท่าตัว หรือยอดคนตกงานที่แท้จริง 6 ล้านคน จากการบริหารของนายกทำให้ 30 ล้านคนเดือดร้อน 
"ไทยเคยเป็นเป้าหมายการลงทุน เคยเป็นพี่ใหญ่ เป็นผู้นำ แต่7ปีที่ผ่านมา หลายแห่งย้ายฐานการผลิตเจ้าสัวที่ท่านอุ้มชู เอาเงินจากคนไทยไปลงทุนต่างประเทศ ไทยโดนผลกระทบการท่องเที่ยวอยู่อันดับ4 ความล้มเหลวของนายก ให้แต้มต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ ภาคการเกษตรไม่ต่ำกว่า20ล้านคน ไม่ขยับ ผมจะลงมติไม่ไว้วางใจนายกและไล่ท่านออก"

นายกรัฐมนตรี ปูดกลางสภาฯ คนใกล้เพื่อไทย อยากซบอก ไล่ไม่ต้องมา โว เป็นรัฐบาลแรก จ่ายเงินตรงประชาชนทุกกลุ่ม แจงไม่มีเอื้อเจ้าสัว ปมปิดตลาด - เปิดห้าง

ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจง ถึงความล้มเหลวการบริหารเศรษฐกิจ โดนระบุว่ารู้ไม่เท่าพวกท่าน แต่ตนก็เป็นนายกมาห้าถึงหกปีก็มีความเรื่องบ้าง เดินมาพร้อมยืนยันว่าการลงทุนมีการเตรียมติดแม้ว่าจะติดสถานการณ์โควิด 19โดยสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ไม่มีใครอยากเที่ยวขออย่ายกมาโจมตีปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนกรณีค่าเงินบาท ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังแก้ปัญหาทุกมิติ ไม่ได้คิดเองเออเอง แต่ต้องทำทุกอย่างตามสากล ต่อจากนี้เตร่วมปฏิรูปเศรษฐกิจ

 ส่วนประเด็นการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปิดสถานประกอบการจากการระบาดรอบแรก ย้ำว่า ถ้าตนไม่ทำ เชื่อว่าไทยจะมีผู้ติดเชื้อสูงกว่าต่างประเทศ ก็ต้องยอมเจ็บ ท่านพูดได้อย่างไร จิตใจทำด้วยอะไรที่ว่าผมยิ้มได้ ทุกวันนี้ผู้ลงทุนต่างประเทศกลัวการขัดแย้งในไทย ไม่มีประเทศไหนทะเลาะกันยาวนานแบบไทย สัดส่วนการลงทุน มีปัจจัยหลายอย่างทั้งสถานการณ์โควิด และสงคราการค้า ตนไม่ได้พูดแก้ตัว แต่ทุกประเทศมีปัญหาหมด ขออย่าไปเปรียบเทียบกับเวียดนาม เพราะปกครองประเทศไม่เหมทอนเรา เราให้ได้ไม่เหมือนเขา เพราะเรามีระเบียบมากมาย จะบอกว่ารัฐบาลไม่มีสมองคงไม่ใช่

ส่วนการกู้เงินที่วิจารณ์ว่าภาษีของเราภาษีของใคร. ขอย้ำว่าคือภาษีของทุกคน ทุกคนต้องได้รับการดูแล ถ้าไม่กู้จะเอาที่ไหนมาให้ นายกรัฐมนตรีพร้อมท้าให้ถามประชาชนพอใจหรือไม่ไม่ใช่ถามกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเชื่อว่าเป็นรัฐบาลแรกที่จ่ายเงินตรงประชาชนทุกกลุ่มเกือบทุกกรณี ผ่านแพลตฟอร์มใหม่และระบบ Big Data รัฐบาลตระหนักดีว่าประชาชนเดือดร้อน ส่วนการปิดสถานประกอบการไม่ได้คิดเอาเอง มี ศบค. ที่มาจากผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน ออกแบบมาตรการและสถิติการแพร่ระบาด จะมาว่าเอื้อเจ้าสัว ปิดตลาดแต่ไม่ปิดห้างสรรพสินค้า คงไม่ใช่

 ส่วนที่กล่าวหาว่าตนบริหารประเทศมา6ปี ใช้เงินกว่า20 ล้านล้านบาท ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่การลงทุนไม่เพิ่มนั้น ชี้แจงว่า รัฐบาลของตน ในการลงทุนทางเศรษฐกิจ ตัวเลขการลงทุนเพิ่มสูงกว่า90% เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลปี2555-2557 เพิ่มเพียง 8% เท่านั้น

"ท่านบอกว่าผมเป็นนายกรัฐมนตรีที่ใช้ไม่ได้ ล้มเหลว ขอให้ไปดูคนใกล้ๆท่านแล้วกัน หลายคนจะย้ายมาอยู่กับผม ไปหาให้เจอก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาหรอก"

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ