ข่าว

"ประยุทธ์" จี้ อย. เร่งรัดกระบวนการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด ยันรัฐบาลมีเงินพอสำหรับการดูแลเศรษฐกิจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายกรัฐมนตรี จี้ อย.เร่งรัดกระบวนการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ให้เร็ว ย้ำ วัคซีนมาถึงจะฉีดให้ประชาชนทันที ยืนยัน รัฐบาลมีเงินเพียงพอในการดูแลด้านเศรษฐกิจ คาดสิ้นเดือนมกราคม มีชัดเจนมาตรการเยียวยาค่าครองชีพ ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่

12 ม.ค.64  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha"เรื่องวัคซีนโควิด-19 โดยระบุว่า  ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งรัดกระบวนการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดให้เร็ว เมื่อวัคซีนมาถึงแล้วจะฉีดให้ประชาชนทันที โดยเฉพาะวัคซีนของ บริษัทแอสตร้า เซนเนก้า ที่ประเทศไทยได้รับสิทธิให้เป็นผู้ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ได้วางแผนเรียงลำดับการฉีดตามหลักสากล คือ กลุ่มบุคลการทางการแพทย์ ผู้สูงวัย ผู้มีโรคประจำตัว คนที่พื้นที่ที่มีการระบาดสูง จะได้รับก่อน เรื่องนี้ เตรียมไว้หมดแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เปิดแผน 3 ระยะฉีดวัคซีน โควิด-19 เริ่ม 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดก่อน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุถึง มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการบรรเทาผลกระทบในระยะเร่งด่วน 3 ส่วนหลัก 
1. มาตรการเสริมสภาพคล่อง บรรเทาภาระหนี้สินของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและประชาชน
2. มาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงาน  การลดหย่อนเงินสมทบนายจ้าง และผู้ประกันตน เพิ่มสิทธิประโยชน์ การว่างงาน ฯลฯ
3. มาตรการลดค่าใช้จ่ายประชาชน โดยการลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และค่าอินเตอร์เน็ต 

ทั้งนี้  รัฐบาลกำลังประเมินสถานการณ์การระบดา เพื่อกำหนดมาตรการดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติมโดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือเงินเยียวยาค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของเชื้อโควิด-19  คาดว่าภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ จะมีความชัดเจน 

นายกฯยังย้ำว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอสำหรับการดูแลเศรษฐกิจ ในรอบการระบาดใหม่นี้ เพราะเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ตามพระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา ฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส โคโรน่า เราใช้ไป 5 แสนกว่าล้านบาท ยังเหลือ ประมาณ 4 .9 แสนล้านบาท 
นอกจากนี้ เรายังมี งบกลาง ของงบประมาณ ปี 2564 อีกประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งใช้ในกรณีฉุกเฉิน และเร่งด่วน รวมกันแล้ว  6 แสนล้านบาท 
เรื่องเงินไม่มีปัญหา จะใช้เงิอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงจุด และทันการณ์นั่นคือสิ่งสำคัญกว่า 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ