ข่าว

'หมอชลน่าน' เสียดาย รบ.ใช้เวทีสภาโยนผิดผู้ชุมนุม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'หมอชลน่าน' เสียดาย รบ.ใช้เวทีสภาโยนผิดผู้ชุมนุม เตือนอย่าเหมาปฎฺิรูปสถาบันฯคือล้มล้าง

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่รัรฐสภา การอภิปรายในการประชุมร่วมรัรฐสภาเพื่อหาทางออกประเทศ เวลา 19.30 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านพรรคเพื่อไทย  อภิปรายว่า ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีมุมมองต่อญัตติที่เสนอเข้ามาว่า เป็นที่น่าเสียดาย เพราะใช้ญัตตินี้หาความชอบธรรมในการอยู่ในอำนาจต่อ โดยการโยนความผิดให้ผู้ชุมนุม ถ้านายกฯ และครม. มีความจริงใจต่อเวทีรัฐสภา ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นและลุกลามบานปลายมาจนถึงทุกวันนี้

 "เรามีข้อเสนอมากมายให้รัฐบาล แต่รัฐบาลไม่เคยนำไปสู่การปฏิบัติใดๆ การดุลอำนาจสูญเสียไปหมด สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการเข้าสู่อำนาจของท่านตั้งแต่เข้าเป็น คสช. มีการจัดทำรัฐธรรมนูญเพื่อเข้าสู่อำนาจ จากนั้น 6 ปีที่ผ่านมา หากท่านบริหารดีจะไม่มีคนประท้วง แต่ผลการบริหารงานของท่านล้มเหลวหมดจนเกิดเป็นวิกฤตศรัทธา โดยเฉพาะการบริหารสถานการณ์วิกฤตที่ท่านเลือกใช้วิธีการที่รุนแรงทั้งที่เขาชุมนุมโดยสันติ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย นี่คือความอ่อนด้อยในการบริหารราชการแผ่นดินของท่านเอง ออกพ.ร.ก.เพื่อสลายการชุมนุม ซึ่งเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต หรือลุแก่อำนาจ"

 "สิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง เขาเรียกร้องมาตั้งแต่ก่อนสถานการณ์โควิด 3 ข้อ แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบรับข้อเรียกร้องก็ขยายขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงการปฏิรูปสถาบันฯที่หลายคนมองว่าเป็นข้อเรียกร้องที่เกินเลย ไม่เหมาะสม ไม่บังควร ตนขอเรียนว่า คำว่าปฏิรูปสถาบันเป็นคำที่น่าจะเป็นคำสามัญทั่วไปแล้วในปัจจุบันนี้ ส่วนข้อเสนอจะเกินเลยหรือไม่นั้น ต้องไปดูที่ถ้อยคำ ตนเชื่อว่า คนไทยรักสถาบันทุกคน ซึ่งการรักย่อมมีการแสดงออกที่แตกต่างกัน อยากให้สิ่งที่ตัวเองรัก และเทิดทูนอยู่ในจุดที่เหมาะสม ทั้งนี้ การปฏิรูปคือการเปลี่ยงแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไปโดยมีเป้าหมายที่มีนวัตกรรมใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้าง ไม่ได้เป็นการล้มล้าง"
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ทางออกที่เราขอเสนอคือ 1.ขอให้รัฐบาลใช้กฎหมายปกติในการดูแลผู้ชุมนุม ความผิดที่เกิดขึ้นจากการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง 40 กว่าราย ต้องได้รับการปล่อยตัวทันที ไม่ว่าจะอยู่ในกระบวนการ หรือหน่วยงานใด 2.เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหลายต้องมีการสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีขบวนเสด็จ โดยอาจจะใช้กระบวนการของกมธ. หรือกมธ.วิสามัญ ว่าผู้ใดต้องเป็นคนรับผิดชอบ อาจพิสูจน์ด้วยการใช้วิทยุสื่อสารในการกำหนดเส้นทาง ท่านโทษผู้ชุมนุม แต่กลับไม่ปกป้องสถาบันฯ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบ 3.การสลายการชุมนุม จะต้องมีการสอบข้อเท็จจริงว่ามีการใช้มาตรการที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ 4.การทำประชามติต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การทำประชามติว่าเห็นด้วยกับการชุมนุมหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน 5.ร่างรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะฉบับประชาชนต้องได้รับการพิจารณา
วันนี้ ศูนย์รวมปัญหาคือตัวนายกฯ หลายคนขอให้ท่านเห็นแก่ประเทศ เราขอบคุณในสิ่งที่ท่านทำมา แต่ตอนนี้บ้านเมืองไปไม่ได้ ทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ คือ ลาออก แล้วใช้กระบวนการเลือกนายกฯในรัฐสภา หาผู้ที่สมควรเป็นนายกฯซึ่งเป็นคนในสภานี้ก็ได้ ตนมองว่าเป็นทางออก เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ และต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จ จากนั้นจึงยุบสภา แล้วให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้ อย่ามองข้อเรียกร้องของลูกหลาน และเยาวชนว่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือแย่งอำนาจทางการเมือง วันนี้เขาอยากแย่งอนาคตของเขาคืน ขอนายกฯอย่าเติมเชื้อไฟเข้าไปในปัญหา พ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านต้องแต่งเสื้อเหลืองไปร้องเพลงชาติ ในขณะที่ลูกไปชุมนุม เป็นภาพของความแตกแยก ภาพแบบนี้อย่าให้เกิด“ นพ.ชลน่าน กล่าว

คูปองส่วนลด 11 % FREE ส่งฟรี 

'หมอชลน่าน' เสียดาย รบ.ใช้เวทีสภาโยนผิดผู้ชุมนุม
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ