ข่าว

เลขาฯ พปชร.ยันนายกฯจริงใจแก้ปัญหา-หาทางออกร่วมกันผ่านรัฐสภา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลขาฯ พปชร."อนุชา นาคาศัย" ยันนายกฯจริงใจแก้ปัญหาของประเทศหลายเรื่องที่เป็นอยู่-หาทางออกร่วมกันผ่านรัฐสภา

23 ต.ค.63 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การที่ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกันแถลง ระบุว่าญัตติ
อภิปรายทั่วไปของนายกรัฐมนตรี ไม่จริงใจหาทางออกประเทศตอกลิ่มความขัดแย้งป้ายสีผู้ชุมนุมหวังฟอกขาวตัวเอง ให้ร้ายประชาชนไม่มีความจริงใจและไม่นำไปสู่ทางออกของ
ปัญหานั้น

ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  ขอแถลงต่อสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนให้ได้เข้าใจว่าการขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญตามมาตรา 122 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราช
อาณาจักรไทย 2560 รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นและมีความจริงใจในการที่จะแก้ปัญหา ของประเทศในหลายเรื่องที่เป็นอยู่ ทั้ง
ภัยพิบัติที่ต้องร่วมกันแก้ ทั้งปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน อีกทั้งยังเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 165 ต่อประธานรัฐสภา ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ในอันที่จะขอ
ความคิดเห็นของรัฐสภา เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันหาทางออกในทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่ารัฐสภานั้นประกอบไปด้วยตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่มีความสำคัญใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต่างอาสาเข้ามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนในการแก้ปัญหาของประเทศในทุกมิติในทุกบริบทของการเมืองการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ดังนั้นสิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้แสดงออกในการเขียนญัตติด้วยหารนำปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ ณ ปัจจุบัน ทั้งเรื่องภัยพิบัติของโรคระบาด ทั้งเรื่องปัญหา
อุทกภัย ทั้งเรื่องปัญหาของการเดินขบวนของนิสิตนักศึกษาและเยาวชนในญัตติดังกล่าว ได้สะท้อนถึงปัญหาและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาครบถ้วนทุกประเด็นเเม้กระ
ทั่งข้อเรียกร้องของผู้เดินขบวน ไม่มีการเสริมแต่งใดๆทั้งสิ้นทั้งหมดเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายผู้หนึ่งผู้ใด

“ทั้งหมดคือปัญหาของประเทศ ณ เวลานี้ที่พวกเราในฐานะสมาชิกรัฐสภาควรที่ตระหนักที่จะร่วมกันมีเจตนาอันบริสุทธิ์ ในการที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยเหตุและผลไม่ใช่เล่นการเมืองไปวันๆ โดยไม่นึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงในอนาคตของประเทศและของลูกหลานไทยเราในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ผมและพรรคพลังประชารัฐขอเลือกจบที่สภา ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” นายอนุชา ระบุ.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ