ข่าว

"ทิพานัน" ตอก "ธนาธร" หยุดตีปี๊บฉวยโอกาสวาทกรรมคุกคามประชาชน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทิพานัน" ตอก "ธนาธร" หยุดตีปี๊บฉวยโอกาสวาทกรรมคุกคามประชาชน ชี้ชัดความจริงหนังคนละม้วน แกนนำคุกคามสาดสี ละเมิดสิทธิผู้อื่นและทำผิดกฎหมาย ยันกระบวนการจับกุมสามารถทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

14 ต.ค.63 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำคณะก้าวหน้าเช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนักการเมืองบางกลุ่มพยายามปลุกปั่นกระแสสังคมด้วยวาทกรรม  #หยุดคุกคามประชาชน พร้อมกับเผยแพร่ข้อความบิดเบือนข้อเท็จจริงในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมแกนนำม็อบเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่า  

นายธนาธร ต้องหยุดเผยแพร่วาทกรรมเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง เพราะจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ที่ติดตามข่าวสารพิจารณาได้ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่างหากที่คุกคามการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่   ตนไม่แน่ใจว่าการกล่าวหาเจ้าหน้าที่นั้นเป็นเพราะอ่านข่าวประชาสัมพันธ์กองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ครบ 22 บรรทัด  หรืออ่านครบแต่มีเจตนายุยงปลุกปั่น สร้างสถานการณ์ให้เป็นเหมือนผู้ถูกกระทำและโดนเจ้าหน้าที่รัฐรังแกเพื่อให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมม็อบให้มากขึ้นเป็นมุกเก่าๆที่ใช้ซ้ำซากจนประชาชนรู้ทัน  ทั้งๆที่ความจริงตำรวจกลับเป็นผู้ถูกกระทำ แกนนำม็อบมีพฤติกรรมก่อความวุ่นวายและสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมซ้ำเดิมที่แกนนำม็อบเคยทำมาแล้วหลายครั้งจนประชาชนเห็นคุ้นชินตาว่าแกนนำม็อบมักสาดสีใส่เจ้าหน้าที่และสถานที่ราชการเป็นประจำ และล่าสุดในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีกำหนดการควบคุมแกนนำส่งศาลพร้อมแจ้งดำเนินคดี 10 ข้อหาแล้ว

สำหรับข้อเท็จจริงจาก 22 บรรทัดของข่าวประชาสัมพันธ์นั้น  มีใจความสรุปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดระเบียบความปลอดภัยและการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่แกนนำม็อบ 21 คนตั้งเต็นท์กีดขวางการจราจรและใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยในการใช้ถนนของประชาชนคนอื่น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งให้ผู้ชุมนุมแก้ไขทำตามกฎหมาย แกนนำม็อบ 21 คนกลับขัดขืนและก่อความวุ่นวาย สาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้นจึงถูกควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดี 8 ข้อหาหลัก ซึ่งเมื่อวานนี้มีเพียงม็อบนี้และแกนนำกลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ฝ่าฝืนกฎหมายกีดขวางการจราจร ขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ สาดสีเจ้าหน้าที่ ดังนั้นที่นักการเมืองบางคนพยายามปลุกปั่นกระแสว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสองมาตรฐาน ไม่ยอมจับกุมม็อบอื่นนั้นจึงเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย เพราะการชุมนุมกลุ่มอื่นไม่มีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเหมือนแกนนำสาดสี 21 คนนี้

"การจับกุมแกนนำ 21 คนเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมโดยมีอำนาจถูกต้องตามกฎหมาย เพราะดำเนินการในขณะที่กลุ่มแกนนำม็อบกำลังกระทำความผิดจึงเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า กล่าวคือ เป็นความผิดซึ่งเห็นกำลังกระทำ หรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าเขาได้กระทำผิดมาแล้วสดๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 80 ดังนั้นการจับจึงไม่ต้องมีหมายจับตามที่มาตรา 78 (1) กำหนดไว้ "พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับหรือคำสั่งของศาลนั้นไม่ได้ เว้นแต่เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้าดังได้บัญญัติไว้ในมาตรา  80” น.ส.ทิพานัน กล่าว

“ขอให้นักการเมืองดังกล่าวหยุดทำตัวเป็นเสมือนผู้เขียนบทและแอบกำกับการแสดงอยู่ข้างหลังเวทีม็อบ ขอให้หยุดการปั่นกระแสและบิดเบือนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคามประชาชน จับกุมโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และไม่เคารพสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 เพราะในความเป็นจริงทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมันเป็นคนละเรื่องเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้จับกุมแกนนำม็อบเพราะมาชุมนุมแต่จับกุมเพราะแกนนำม็อบละเมิดสิทธิของผู้อื่น ฝ่าฝืนกฎหมาย กีดขวางการจราจร ขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่และคุกคามโดยการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่และมีพฤติกรรมที่กล่าวในข้างต้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ