ข่าว

"บุญเกื้อ" เย้ย "ช่อ" พลาดตกหลุมพรางแล้ว การตัดสินใจฟ้องคดีหมิ่นฯเท่ากับมอบกุญแจไขตู้เอกสารให้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บุญเกื้อ" เย้ย "ช่อ" พลาดตกหลุมพรางแล้ว การตัดสินใจฟ้องคดีหมิ่นฯเท่ากับมอบกุญแจไขตู้เอกสารให้ เพราะสามารถขออำนาจศาลขอเอกสารความลับต่างๆจากธนาคารได้ทั้งหมด

กลายเป็นเดือดขึ้นมาอีกคู่ ระหว่าง ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย  กับ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช ที่เดินหน้าตรวจสอบหลักฐานกรณีเงินบริจาคจำนวน 7.2 ล้านบาท ของโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ ของคณะก้าวหน้า โดยเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ได้เดินทางไปที่สน.โคกคราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน พร้อมมอบหลักฐาน ซึ่งเป็นรายชื่อ และจำนวนเงินของผู้บริจาค  ทั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดรับบริจาคไม่โปร่งใส เนื่องจากเห็นว่า ไม่ควรใช้บัญชีส่วนตัวของ "ช่อ" น.ส. พรรณิการณ์  กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และ เรียกร้องให้ นำสเตทเมนต์มาชี้แจง 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8  มิ.ย.63 น.ส.พรรณิการ์ ได้มอบหมายให้ทีมกฎหมาย ยื่นฟ้อง ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา  เรียกค่าเสียหายจำนวน 1 ล้านบาท และศาลกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 26 ตุลาคม 2563 เวลา 13:30 น.

ล่าสุด วันนี้ ( 9 ก.ค. 63 ) ว่าที่ร้อยตรี บุญเกื้อ  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็น หลังจากทราบว่า น.ส.พรรณิการ์ แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทกับตน พร้อมระบุว่า "ขอขอบคุณคณะก้าวหน้า โดยคุณช่อที่ได้มอบกุญแจไขตู้เอกสารไว้ในมือผมแล้ว ขอบคุณครับ" รายละเอียดดังนี้ 
 

และแล้วจุดเริ่มต้นของจุดจบของคณะก้าวหน้าก็มาถึง
เมื่อโครงการเมย์เดย์เมย์เดย์ของคณะก้าวหน้า ได้ถูกราษฎรกระชากหน้ากากที่ปิดบังเรื่องฉ้อฉลได้สำเร็จ
...หลังจากที่ผมกล่าวหาคณะก้าวหน้าว่าอมเงินบริจาค คุณช่อพรรณิการ์เธอก็ถึงกับตื่นตระหนก ตกใจจนสติแตก ระงับอาการไว้ไม่อยู่ ขู่ฟ้อง ขู่ให้หยุดตรวจสอบ
...เมื่อผมไม่หยุดการตรวจสอบและได้เดินทางไปแจ้งความกล่าวหาคณะก้าวหน้าที่สน.โคกคราม คุณช่อก็ยิ่งประหวั่นพรั่นพรึงจนตั้งสติไม่ได้
...คุณช่อพูดจาเหยียดหยามราษฎรที่ตรวจสอบความโปร่งใสคณะก้าวหน้าเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือจากสังคม เธออาศัยความได้เปรียบที่เป็นเจ้าของตู้เอกสารที่เก็บซ่อนความลับในคดีนั้นไว้กับตัวเอง เธอใช้วิธีปล่อยเอกสารลวงโลกออกสู่สาธารณชน เช่นรายชื่อผู้ได้รับเงิน3,000บาทที่ไม่ถูกต้องแท้จริงและสเตทเม้นหลอกเด็กที่เธอตัดแต่งแก้ไขแล้วใส่เครื่องหมายคณะก้าวหน้าเอาไว้ทุกหน้าเพื่อไว้ตอบสังคมภายหลังว่าพนักงานของคณะก้าวหน้าพิมพ์ผิดเมื่อตรวจสอบพบ
...เธอหลงลำพองใจว่าไม่มีมนุษย์คนใดในโลกนี้จะตรวจสอบค้นหาความจริงได้แน่ๆ และถ้าหากใครขืนใช้เอกสารของเธอมาเป็นหลักเขาก็จะกลายเป็นคนพลาด พลั้งเสียทีเพราะหลงกลเธอ อย่างกรณีคุณหมอวรงค์ยกเอามาแค่ 15รายชื่อ ก็ยังต้องเจอกลลวง เธอจึงกล้าใช้คำพูดหยามหมิ่นผมหรือใครๆก็ตามที่มาตรวจสอบว่าเป็นพวกที่กล่าวหาลอยๆ ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ก็ใครจะมีได้อย่างไรเมื่อเธอเก็บความลับใส่ตู้ไขกุญแจเก็บไว้อย่างดี ส่วนเอกสารที่เปิดเผยนั้นก็ล้วนแต่เป็นเอกสารลวงโลกที่คณะก้าวหน้าผลิตขึ้นมาใช้เป็นกลลวงให้ราษฎรหลงทาง
....แต่แล้วเธอก็พลาดจนได้ เมื่อเธอตัดสินใจฟ้องผม เป็นคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและเรียกค่าเสียหาย 1ล้านบาท..นี่เองคือสิ่งที่เธอพลาด เพราะว่าต่อจากนี้ไป บุญเกื้อก็จะกลายเป็นคนที่มีสิทธิขออำนาจศาลขอเอกสารความลับต่างๆจากธนาคารได้อย่างหมดไส้หมดพุงกันเลยทีเดียว
...ขอขอบคุณคณะก้าวหน้า โดยคุณช่อที่ได้มอบกุญแจไขตู้เอกสารไว้ในมือผมแล้ว ขอบคุณครับ
บุญเกื้อ ปุสสเทโว
9 กค.63 - 7.17น.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ