"แรมโบ้"ระบุเป็นที่น่ายินดี "อียู"ได้มีการเสนอชื่อประเทศไทย เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่จะให้พลเมืองเดินทางไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้ ผลการยอมรับของอียูเกิดจากความร่วมมือของประชาชนและความตั้งใจรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19ร่วมกันทุกฝ่ายของคนไทย
1 ก.ค.2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ระบุว่าถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ สหภาพยุโรป(อียู)ได้มีการเสนอชื่อประเทศที่ปลอดภัย (safe countries) ที่จะให้พลเมืองของ 14 ประเทศเดินทางมายังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้อีกครั้งในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่านานาประเทศเห็นถึงความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ของไทยเป็นประเทศที่ประสพผลสำเร็จจนการแก้ไขป้องกันไวรัสโควิด จนทำให้ประชาชนปลอดภัยสูงสุด
เพราะที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักในการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่เริ่มต้นของการแพร่ระบาด ได้วางมาตรการต่างๆทั้งมาตรการด้านสาธารณสุข รณรงค์ให้ประชาชน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง รักษาระยะห่างทางสังคม กำหนดประเทศกลุ่มเสี่ยง และได้ออกกำหนดวิธีการในการกักตัว (Quarantine) ผู้เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรคติดต่ออันตรายอย่างเคร่งครัด
รวมถึงห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทย การตรวจตราผ่านเข้าออกตามด่านพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านและการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนมาถึงทุกวันนี้ ประเทศไทยสามารถลดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้มากที่สุด มีเฉพาะผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่อยู่ใน State Quarantine เท่านั้น
นายสุภรณ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยยังได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ ทั้งมหาวิทยาลัย จอนห์ฮอป กินส์ มีการประเมินและจัดอันดับประเทศไทยอยู่ในอันดับ 1 ของประเทศที่มีการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ที่ดีที่สุดในโลก และติดอันดับ 2 ของโลกในด้านการฟื้นตัวจากโควิด-19 จากการจัดอันดับดัชนี Global COVID-19 Index (GCI ) รวมถึงสื่อประเทศของญี่ปุ่น ได้ชื่นชมการรับมือโควิด-19 ของประเทศไทย
เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากต่างประเทศในการป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งก็มาจากความร่วมมือร่วมใจของคนในประเทศทุกภาคส่วนทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นทีมแพทย์ พยาบาลเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเฉพาะทีมงาน อสม.จิตอาสามดงานทุกคนที่ทุ่มเทกำลังอย่างสุดความสามารถร่วมกับรัฐบาล จนทั่วโลกชื่นชมและให้รับการยอมรับประเทศไทยเรา
"ผมจึงขอยืนยันว่า นี่คือผลสำเร็จของความร่วมมือจากพี่น้องคนไทยทุกคน ที่ให้ความร่วมมือต่อรัฐบาล และผลจากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจึงเป็นส่วนสำคัญที่พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่อยากให้คงไว้เพื่อไม่ให้กลับมาระบาดรอบสองอีก เพื่อให้คนไทยทุกคนจะได้ปลอดภัยสูงสุดหรือจนกว่าไวรัสโควิดจะหมดสิ้นไปจากประเทศไทย ผลจากความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นการ"รวมไทย สร้างชาติ" ตามที่นายกฯได้ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจช่วยกันเพื่อประเทศไทยของเรา" นายสุภรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง