"จตุพร"ตอบดังชัด เลิก พรก.ฉุกเฉินทันที
"จตุพร"ตอบดังชัด เลิก พรก.ฉุกเฉินทันที ชี้เป็นระเบิดเวลาทำลายชาติบ้านเมืองย่อยยับในอนาคต ย้ำเป็นข้อเสนอเพื่อชาติบ้านเมือง ไร้เกมทำลายล้างแอบซ่อน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการทำโพลถาม “ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่” ว่า “ผมขอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยทันที”
นายจตุพร กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงตามลำดับ เมื่อเกิดโควิด-19 คนไทยมีความกังวล และเห็นพ้องกันควรให้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เมื่อใช้มากว่าเดือนเศษนั้น จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดน้อยลงต่อเนื่อง จนอาจกล่าวได้ว่า เห็นเค้าลางทำสงครามชนะโควิด-19 แล้ว แต่การทำสงครามความยากจนนั้น รัฐบาลแพ้ราบคาบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการเยียวยาของรัฐบาลนั้น เมื่อหมดเงินกู้ประชาชนจะอยู่กันอย่างไร ประกอบกับยังต้องอยู่ร่วมกับโควิด-19 อีกยาวนาน แต่เชื่อว่าสังคมเกิดความเคยชินกับมาตรการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย และระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อได้เป็นอย่างดี
“มีการตั้งขอสังเกตว่า ถ้ายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แฟลชม็อบจะมานั้น ผมบอกว่าถ้ายิ่งอั้นกันไว้ จนคนอดอยากถึงขีดสุดแล้ว วันนั้น แม้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เอาไม่อยู่ นำพาสู่สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น แต่ถ้ายกเลิกนั้นจะเป็นการเปิดช่องให้ได้คนระบายความอึดอัด ขอให้คิดช้าๆ ตั้งสติทบทวนข้อเสนอให้ดี”
นายจตุพร ย้ำว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้ และเท่ากับเป็นระเบิดเวลาที่รอวันระเบิด แต่ต้องยอมรับความจริงกัน ถ้าเศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจนสิ้นโควิด-19 ไปจากโลก ก็ไม่มีใครต่อว่าอะไรได้ แต่ความจริงวันนี้คือ รัฐบาลอยู่ได้ด้วยเงินกู้ อีกทั้งอุ้มคนเดือดร้อนทั้งคนรวย คนจน ได้อีกแค่ 2 เดือน เมื่อเงินหมดแล้ว หลังจากนั้นประชาชนจะมีชีวิตอย่างไร มาตรการทางเศรษฐกิจที่เสนอมาก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ความเชื่อถูกทำลายล้างไปหมด
ส่วนพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอยู่ในสภาพรอเวลาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น หากเข้าสถานการณ์ปกติพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะมีสภาพอย่างไร เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถวสองจ่อตัวเคลื่อนไหวขอเป็นรัฐมนตรีกันแล้ว เนื่องจากพรรคนี้รับรู้กันดีว่า อนาคตสั้น สภาพพรรคการเมืองอยู่ได้เพียงสมัยเดียว หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไปแล้ว พรรค พปชร.ก็คงต้องจบไป ดังนั้น สถานการณ์ภายในพรรคจึงรอวันปะทุขึ้น
ส่วนประชาธิปัตย์ ยังมีปัญหาระหว่างฝ่ายเป็น ครม. กับไม่ได้เป็น ครม. ล้วนมีความเห็นทางการเมืองไปคนทาง โดยเฉพาะการเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล เพื่อเอาใจประชาชนในฐานะ ส.ส.เท่านั้น
สำหรับภูมิใจไทย แม้มีความเป็นเอกภาพ แต่ปั่นป่วนกันภายในไม่แตกต่างกัน ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วม ล้วนซ้อนมีดไว้ข้างหลัง พร้อมทิ่มแทงกันได้ทุกขณะที่มีโอกาส ดังนั้น ภาพที่แลเห็นกันทั่วไป พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มีความสามัคคีกัน ไม่ได้รักกันจริง ดังนั้น รัฐบาลจึงรอวันพังกันอยู่ดี
รวมทั้งพรรคฝ่ายค้าน ถ้าเลือกตั้งใหม่ ภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญเดิมแล้ว ผลลัพธ์ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งการเลือกตั้งใหม่ก็ไม่ใช่คำตอบ
“สถานการณ์แบบนี้ รัฐบาลอ่อนยวบ ในอนาคตคนของพรรคร่วมรัฐบาลจะจมเรือรัฐบาลเอง อีกทั้งแรงกระเพื่อมในรัฐบาลจะแรงกว่าปัจจัยภายนอก ดังนั้นอนาคตของไทยจึงมืดมน ผมไม่คิดล้มรัฐบาล แต่การแสดงความเห็นล้วนแยกแยะ ผมเอาใจช่วยสู้โควิด-19 ด้วยซ้ำไป ส่วนเรื่องเศรษฐกิจไม่ไหวจริงๆ”
นายจตุพร กล่าวว่า การทำโพล กอ.รมน. เพื่อขอความเห็นว่า จะยกเลิก ฉุกเฉินหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่า ประชาชนจะให้ยกเลิกทันที หากไม่มีการยกเมฆโพลกันมาเท่านั้น เพราะการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มความเดือดร้อนให้ประชาชนหนักขึ้นทุกวัน
นอกจากนี้ ยังระบุว่า แม้โควิด-19 จบ แต่ประเทศไทยไม่จบ ส่วนมาตรการเศรษฐกิจพูดมาเท่าไรคนก็ไม่เชื่อ รวมทั้งการเปิดสภาสามัญวันที่ 22 พ.ค.นี้ ยังไม่มีอะไรยืนยันว่า จะประชุมสภาได้ ดังนั้น การตรวจสอบใช้เงินกู้ก็อาจยังทำไม่ได้เช่นกัน
วันนี้ต้องยอมรับความจริง มีคนเดือดร้อนกันจริง แม้ ส.ว.ก็มองเห็นอารมณ์คนจะออกมาชุมนุม ดังนั้น การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพื่อให้ธุรกิจเดินได้ แต่ไม่ได้กลับมาเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วอีก ซึ่งต้องใช้เวลานานสมควร
“เมื่อนายกฯถามจะยกเลิกฉุกเฉินหรือไม่ ผมตอบดังๆว่า ต้องยกเลิกทันที เพราะเป็นการยุติความเสียหายของชาติบ้านเมือง ถ้ามีโรคระบาดอีก นายกฯก็สามารถประกาศใช้ได้อีก แต่วันนี้ต้องปล่อยให้คนทำมาหากิน หยุดความรุนแรงจากความหิวโหย และประชาชนจะได้เข้าสู่ภาวะปกติ”
นายจตุพร ย้ำว่า การเสนอความเห็นต่างๆนั้น เพื่อร่วมกันเสนอทางออกและแก้ไขให้กับบ้านเมือง ยังไม่ได้ทำลายล้างกัน ต้องการให้ประเทศผ่านวิกฤต แล้วเดินไปสู่สิ่งดีงามกันทั้งสิ้น แต่การยืนในจุดความเป็นคนไทยนั้น อย่าได้จำกัดความรักชาติไว้เป็นสมบัติส่วนตัว เพราะความรักชาติเป็นสิทธิของทุกคนที่เกิดมาเป็นคนไทย
“ข้อเสนอต่างในฐานะประชาชนก็อย่ามองว่า เป็นข้อเสนอเพื่อการทำลายล้าง แต่เป็นข้อเสนอที่มีความรักชาติบ้านเมืองไม่ต่างไปจากนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ดังนั้น ผมหวังว่า นายกฯคงได้ตัดสินใจยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อหยุดระเบิดเวลาในอนาคต เพื่อให้บ้านเมืองในอนาคตดีกว่าวันนี้”