ไร้ผล ฝ่ายค้านอ้อนเพิ่มเวลาซักฟอก "ปธ.สุชาติ" ย้ำยึดข้อตกลง

 

 

          เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2563 - เวลา 16.49 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการหารือต่อเวลาที่เหลือในการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องวันที่สี่ ตามข้อตกลงของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)​และวิปรัฐบาล ที่กำหนดให้พรรคฝ่ายค้านได้รับเวลา 21 ชั่วโมง ขณะที่รัฐบาลได้รับเวลา 10 ชั่วโมง แต่เมื่อถึงเวลาดังกล่าวเวลาของพรรคฝ่ายค้านเหลือเพียง 3 นาที ขณะที่ของรัฐบาลเหลือ 1 ชั่วโมง 15 นาที โดยข้อสรุปที่เกิดขึ้นคือ จะให้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายคนสุดท้ายก่อนปิดการอภิปรายและให้สรุปปิดญัตติ 

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

ฝ่ายค้านเจอวิกฤต เหลือเวลาอภิปราย 3 นาที

2 ส.ส.อดีต อนค. ยัน "ธรรมนัส" แจงสภาไม่เคลียร์

"ธรรมนัส" จ่อฟ้อง ส.ส.อดีต อนค.ยันไม่ใช่จุดอ่อนของรัฐบาล

 

          ทั้งนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะวิปรัฐบาล ชี้แจงว่าตนจะยอมให้ฝ่ายค้านอภิปรายเพียงแค่คนเดียว คือ นายปกรณ์วุฒิ จากนั้นจะปิดการอภิปราย เพราะพิจารณาตามเวลาที่เหลือนั้นจะใกล้เคียงกับข้อตกลงที่ต้องยุติการอภิปรายเวลา 19.00 น. จากนั้นจะให้ผู้สรุปญัตติ อภิปราย 2 ชั่วโมง จากนั้นจะพักการประชุมเพื่อลงมติไว้วางหรือไม่ไว้วางใจในวันที่ 28 กุมภาพันธ์  

 

          อย่างไรก็ตาม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน หารือโต้แย้งว่า ข้อตกลงคือกรอบการบริหาร แต่หากข้อเท็จจริงพบว่าการอภิปรายไม่แล้วเสร็จ ควรทบทวน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน โดยตนมองว่าหากให้ผู้ที่จะอภิปรายได้อภิปรายจนแล้วเสร็จ และใช้เวลาถึงเที่ยงคืนจะเสียหายอะไร ทั้งนี้ตนจำเป็นต้องลุกขึ้นเพื่อขอเวลาเพิ่มเพื่อให้การตรวจสอบสมบูรณ์ อย่ายึดข้อตกลงแล้วกลับบ้านไปโดยทิ้งประโยชน์ของประชาชน 

 

          ทั้งนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง วินิจฉัยว่าตนอนุญาตให้นายปกรณ์ อภิปราย 20 นาที ส่วนกรณีการต่อเวลานั้นอย่าอ้างผลประโยชน์ประชาชน เพราะทุกฝ่ายมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นทุกคนต้องทำเพื่อประชาชน รวมถึงผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมเช่นกัน อย่างไรก็ตามตนพยายามไกล่เกลี่ยให้การประชุมเรียบร้อย 

 

          จากนั้นนายปกรณ์วุฒิ ได้อภิปรายถึงเนื้อหาต่อการไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ซึ่งรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากมีพฤติกรรมละเมิดสิทธิมนุษยชน.