ข่าว

นายกฯ ชม 'มิ่งขวัญ' อภิปรายดี พร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณา

นายกฯ ชม 'มิ่งขวัญ' อภิปรายดี พร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณา

24 ก.พ. 2563

"นายกฯ" ชม มิ่งขวัญ อภิปรายดี พร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณา  อุตตม ยันรัฐบาลเดินหน้ามาตรการกระตุ้นศก. ต่อ ย้ำ 'ชิม ชอป ใช้' กระจายรายได้สู่รายย่อย ไม่เอื้อประโยชน์เจ้าสัว

       นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ ซึ่งญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นานประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีตอนหนึ่งได้ย้ำถึงความไม่ให้ความไว้วางใจ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานะหัวหน้าเศรษฐกิจของรัฐบาล เพราะความล้มเหลวต่อการบริหารราชการแผ่นดินด้านเศรษฐกิจ โดยมีบทพิสูจน์คือข่าวตามหน้าสื่อมวลชนที่ระบุว่าปัญหาเศรษฐกิจแย่ทำให้ประชาชนฆ่าตัวตาย พบคนตกว่างและว่างงานจำนวนมาก

     นอกจากนั้นสถิติความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยขึ้นอันดับ 1 ของโลก จากเดิมที่ปี 58 ไทยอยู่อันดับ 11 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพบความมั่งคั่งของตระกูลมหาเศรษฐีในประเทศ ขณะที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านโครงการชิมช้อปใช้ ที่ใช้เงินรวม 2หมื่นล้านบาท แต่พบว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกใช้ในเครือข่ายของกิจการขนาดใหญ่ ตระกูลเจ้าสัวเท่านั้น ส่วนประเด็นการหารายได้ให้กับประเทศ ที่ยึดด้านการท่องเที่ยวเป็นอันดับ 1 แต่ในรายละเอียดตนกังวลต่อการควบคุมระบบโอนเงินข้ามประเทศ นอกจากนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการเกี่ยวกับปัญหาการจัดระเบียบทางเท้า เพื่อไม่ให้กระทบกับสตรีทฟู้ด ที่เป็นเสน่ห์ของประเทศ​

      "ผมขอเตือนไปยังรัฐบาลต่อการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงเปิดตลาดอาเซียน ที่หวังให้ไทยเป็นสุวรรณภูมิของกลุ่มมิตรประเทศ แต่ล่าสุดทราบว่ามหาธีร์ โมฮัมหมัด เตรียมลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงภาวะผู้นำ ที่นายกฯ ไทยควรพึงพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตามปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นและมาตรการต่างๆ ผมจะขอพูดต่อไปในการอภิปรายปิด และจะกล่าวถึงเนื้อหาในภาคที่สองต่อไป" นายมิ่งขวัญ อภิปราย

     จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่าตนรับประเด็นที่นายมิ่งขวัญอภิปรายไว้พิจารณาเพราะเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตามในการแก้ปัญหาต่างๆ ขึ้นอยู่กับกฎหมายและวิธีปฏิบัติ โดยตนพร้อมตัดสินใจบนความถูกต้องตามกฎหมาย และตัดสินใจร่วมกันของ ครม.​ และขอเรียกร้องให้มองรัฐบาลในมุมการเข้ามาแก้ไขปัญหามากกว่าการสร้างความล้มเหลว 

     ต่อด้วยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อสภาฯ ว่า ขอรับประเด็นอภิปรายทั้งติ และชมไปพิจารณา พร้อมกับต่อยอดในการทำงาน อย่างไรก็ตามการอภิปรายของส.ส.พรรคฝ่ายค้านต่อปัญหาความเหลื่อมล้ำ และการทำงานของรัฐบาลไม่มีข้อมูลใดผิดหรือถูก เพราะเป็นเรื่องตัวเลขที่ได้มาจากสถาบันที่ต่างกันเท่านั้น ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำต้องร่วมมือแก้ไข ผ่านมาตรการและนโยบายที่ครอบคลุม ทั่วถึง สำหรับปัญหาหนี้ครัวเรือน ไตรมาศ 3/2562 พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 47 เป็นหนี้ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ถือว่าเป็นหนี้ที่มีคุณภาพ รองมาร้อยละ 18 เป็นหนี้เพื่อประกอบอาชีพ เช่น อสังหาริมทรัพย์, เกษตร ส่วนหนี้ที่เหลือร้อยละ 35 นั้นเป็นเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้หนี้ครัวเรือนเป็นปกติที่ต้องมี และเติบโตตามการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ต้องควบคุมให้เหมาะสม ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกปัจจุบันไม่ปกติมาก ดังนั้นการแก้ปัญหาภายในประเทศต้องมีมาตรการแก้ปัญหาแบบครบวงจร 

     นายอุตตม ชี้แจงต่อโครงการชิมช้อปใช้ว่าประสบความสำเร็จ เพราะมีเงินหมุนเวียนกว่า 2.9 หมื่นล้านบาทและหมุนเวียนในระบบผ่านร้านค้ารายย่อย และใช้ระบบอีเพย์เม้นท์ เพื่อให้ประชาชนกว่า 10 ล้านคนก้าวข้ามขีดของเทคโนโลยีได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ข้อมูลจากการใช้นโยบายดังกล่าวเพื่อประเมินและกำหนดนโยบายต่อไป ขณะที่โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันไม่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะดำเนินการในมาตรการที่มีประโยชน์ต่อเนื่องต่อไป.