ข่าว

"ธรรมนัส" สั่งตรวจ ส.ป.ก.นักการเมือง ลุยซ้ำที่ดิน "ปารีณา"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปทส.ค้นซ้ำเขาสนฟาร์ม จ่อเช็กบิล 'ปารีณา' รุกป่า 'ธรรมนัส' สั่ง ส.ป.ก.ทุกจังหวัดตรวจที่ดินนักการเมือง

 

               ปทส.นำหมายศาลลุยค้นอีกที่ “เขาสนฟาร์ม” 682 ไร่ จัด 5 ชุดตรวจทุกตารางนิ้ว คาดเสร็จภายใน 1-2 วัน เตรียมเช็กบิล "ปารีณา" รุกป่า ขณะที่ "ธรรมนัส” สั่งส.ป.ก.ทุกจังหวัดตรวจสอบที่ดินนักการเมือง ด้าน “เอ๋” ควงทนายโต้กฤษฎีกาตีความยังไม่ผิดพร้อมสู้คดี ขู่ฟ้องกลับคนโจมตีหลังเสร็จศึกซักฟอก 

 

อ่านข่าว ป่าไม้-ส.ป.ก.รังวัดซ้ำ ที่ดิน "ปารีณา" จ่อแจ้งจับรุกป่า

 

               กรณีนายธวัชชัย ลัดกรูด ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อม พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. หัวหน้าพนักงานสอบสวน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร นายพัฒนะ ศิริมัย ผอ.ส่วนบริหารป่าไม้ จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. กอ.รมน.จ.ราชบุรี ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

 

               นำหมายค้นศาลจังหวัดราชบุรี เข้าตรวจค้นรวมทั้งใช้เครื่องมืออุปกรณ์ชี้จุดดาวเทียมและเครื่องจับสัญญาณจีพีเอส รังวัดจับพิกัดในพื้นที่เขาสนฟาร์ม หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 682 ไร่ ของน.ส.ปารีณา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เพื่อหาจำนวนพื้นที่ที่รุกป่าสงวนแห่งชาติ สำหรับทำบันทึกข้อมูลก่อนแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

               ล่าสุดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นำโดย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ชาวพงษ์ รองผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ปทส. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 16/2563 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 เข้าตรวจค้นเพิ่มเติมในพื้นที่เขาสนฟาร์ม พร้อมแบ่งทีมเป็น 5 ชุดทำงาน เพื่อให้การตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง และอื่นๆ

 

               ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากมีการตรวจสอบจัดเก็บข้อมูลพื้นที่ที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง และอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จะประชุมร่วมกันเพื่อจัดทำบันทึกตรวจยึดและเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้

 

               วันเดียวกันเมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาสรุปความเห็นกรณีที่ดินเขาสนฟาร์ม ที่ถือครองโดย น.ส.ปารีณา ซึ่งยังเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติอยู่ ว่าในเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นมาแล้วว่าให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมป่าไม้ เป็นผู้มีอำนาจดำเนินการ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของกรมป่าไม้และส.ป.ก.ได้ประชุมกันวันนี้ว่าจะดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนตนก็ยึดตามกฎหมาย 

 

               “กฎหมายก็มีอยู่แล้ว ส่วนตัวเราที่เป็นผู้กำหนดนโยบายจะไปกระทำผิดก็ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือนักการเมืองระดับชาติ ไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม ถ้าทำผิดกฎหมายแล้ว ผมยึดหลักกฎหมายฉบับเดียวกัน ปฏิบัติกับทุกคนด้วยความยุติธรรม ไม่ไปรังแกใคร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

 

               ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ ส.ป.ก.ทุกจังหวัด ตรวจสอบที่ดินของนักการเมืองท้องถิ่นจนถึงนักการเมืองระดับชาติว่ามีใครบ้างที่ครอบครองอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในมือของตนแล้ว โดย ส.ป.ก.จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

               ด้าน น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมานั้น ถือว่าตัวเองยังไม่ถูกตัดสินและจะขอสู้คดีถึงที่สุด พร้อมยืนยันไม่ได้บุกรุกป่า ตอนนี้ยังไม่ได้หาช่องทางการต่อสู้คดีเพราะยังไม่มีความชัดเจนว่า ส.ป.ก.และกรมป่าไม้ จะดำเนินคดีในประเด็นใดบ้าง

 

               ซึ่งมองว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นเพียงที่ปรึกษาด้านกฎหมายของรัฐบาลเท่านั้น ยังไม่ใช่ศาลที่จะตัดสินชี้ถูกผิดและยังยืนว่าไม่มีเรื่องเส้นสาย หรือได้รับการปกป้องจากรัฐบาล โดยที่ผ่านมาโดนกระทำมากกว่าชาวบ้านคนอื่นๆ ได้รับความเสียหายอย่างมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ได้เลี้ยงไก่เหมือนเดิม และหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะออกมาปกป้องตัวเองด้วยการฟ้องกลับต่อผู้ที่ออกมาโจมตีโดยปราศจากความจริง

 

               ขณะที่นายทศพล เพ็งส้ม ทนายความพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาได้ 6 ประเด็น ทั้งการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับส.ป.ก. รวมกับกรมป่าไม้ ว่ามีการดำเนินการไปอย่างไรบ้างแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีก่อน เพราะกฎหมายป่าไม้ก็ฉบับหนึ่ง ส่วนส.ป.ก.ก็เป็นกฎหมายอีกฉบับ

 

               ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว ฉะนั้นต้องสอบถามคนในพื้นที่ และจากที่ได้รับทราบจากน.ส.ปารีณา ทั้ง 2 หน่วยงานยังไม่เคยเข้าไปสอบถามคนในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วที่ดินบางแปลงมีทั้งออกโฉนดและไม่ออกโฉนด รวมทั้งมีเอกสารบางฉบับที่หายไป และการลงสำรวจครั้งที่ผ่านมายังไม่ปรากฏเอกสาร จนถึงขณะนี้ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่มีความชัดเจนจึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้ช่องทางใดในการต่อสู้ทางคดี แต่ส่วนตัวมั่นใจว่า น.ส.ปารีณา ไม่มีความผิด ตั้งแต่เข้ามาทำคดีนี้แล้ว 

 

               “ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครเป็นผู้ดำเนินคดีนั้น เพราะทางกรมป่าไม้และ ส.ป.ก.เองก็ไม่มั่นใจว่า น.ส.ปารีณา รุกที่จริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นทั้งสองฝ่ายควรไปตกลงกันให้แล้วเสร็จก่อน ส่วนการลงพื้นที่เขาสนฟาร์มของเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) นั้น ทำไม น.ส.ปารีณา ต้องไปนำชี้ ถ้าไปชี้เท่ากับว่าเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง ส.ป.ก.หรือกรมป่าไม้ต้องการทราบเรื่องพื้นที่อยู่แล้ว ทำไมต้องให้ไปนำชี้ และการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ได้ให้คนอื่นไปนำชี้ด้วยนั้น อยากถามว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงให้คนอื่นไปนำชี้และคนนั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อนในพื้นที่หรือไม่” นายทศพล กล่าว

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ