ข่าว

มติศาลรัฐธรรมนูญให้งบ 63 ได้ไปต่อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มติเสียงข้างมากศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่โมฆะ แม้การเสียบบัตรแทนกันมิชอบด้วยกฎหมาย สั่งลงมติวาระ 2 - 3 ใหม่ "ชวน" รับลูก นัด 13 กุมภาพันธ์

 

              เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563  องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของ ส.ส. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณี ส.ส. เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน

 

 

 

              โดยผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าคดีนี้ไม่มีประเด็นให้วินิจฉัยเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความผิดทางอาญาหรือทางจริยธรรมของ ส.ส. คนใด คงมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาวินิจฉัยเฉพาะเรื่องกระบวนการตราร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่านั้น ส่วนบุคคลใดจะต้องรับโทษอย่างไรหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 เวลา 19.30 น. ถึงวันที่ 11 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นการพิจารณาวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ปรากฏการแสดงตนและลงมติของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส. พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ทั้งที่นายฉลองรับเองว่าไม่อยู่ในที่ประชุมตามวันและเวลาดังกล่าว การที่ ส.ส. มิได้อยู่ในห้องประชุมแต่ปรากฏว่ามีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติแทนย่อมมีผลเป็นการออกเสียงลงคะแนนที่ไม่สุจริต ทำให้ผลการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ในวันและเวลาดังกล่าวไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ

 

 

 

              ส่วนปัญหาว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ตกไปทั้งฉบับหรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงในคดีนี้ก็ปรากฏชัดว่า การพิจารณาออกเสียงลงมติของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 ชั้นรับหลักการและการพิจารณาของกรรมาธิการก่อนเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเรียงตามลำดับมาตราในวาระที่ 2 ได้ดำเนินการไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการถือว่าได้เป็นขั้นตอนที่เสร็จสิ้นไปโดยสมบูรณ์ก่อนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศชาติจะต้องได้กฎหมายฉบับนี้ไปช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าและอุปสรรคในการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินอีกด้วย จึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ป.ดังกล่าวให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการให้ถูกต้องเฉพาะในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 จากนั้นให้เสนอร่าง พ.ร.บ.ที่แก้ไขให้ถูกต้องดังกล่าวให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบเพื่อดำเนินการตามรัฐธรรมนูญต่อไป พร้อมทั้งให้สภาผู้แทนราษฎรรายงานผลการปฏิบัติตามคำบังคับต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำวินิจฉัย

 

 

 

              ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วันนี้ ว่าส่วนตัวไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่ตื่นตาตื่นใจมากกว่า เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเราจะต้องเตรียมอะไร เพียงแต่ไม่รู้ว่าอันไหนคืออันที่ถูกหยิบมาใช้เท่านั้น สิ่งเหล่านี้คือความกังวล แต่ถ้าไม่ไปถึงขั้นนั้นก็จะไม่มีขั้นตอนนี้

              นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายชวนนัดประชุมสภาเป็นนัดพิเศษ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ในวาระสองและวาระสามอีกครั้ง ตามที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะกำหนดเวลาช่วงดังกล่าวได้หารือกับนายชวนพร้อมกับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อกำหนดวันพิจารณาโดยเร็วที่สุด ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์

 

 

 

              แต่ นายสมพงษ์ ระบุว่า ในวันดังกล่าวต้องพิจารณาญัตติด่วนขอสภาตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต ซึ่ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และคณะ เสนอนั้น ยังค้างการพิจารณาอยู่ ดังนั้น นายชวนจึงขอนัดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น. ซึ่งในขั้นตอนต้องเริ่มพิจารณาวาระสองใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ชื่อร่างไปจนถึงมาตราสุดท้าย โดย ส.ส. ที่เสนอคำแปรญัตติและกรรมาธิการที่ขอสงวนความเห็นสามารถอภิปรายได้ตามกรอบเดิม และลงมติเป็นรายมาตราก่อนจะลงมติวาระสามต่อไป อย่างไรก็ตาม หากการประชุมนัดพิเศษไม่แล้วเสร็จภายในวันเดียว สามารถขยายไปจนกว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จวาระให้ความเห็นชอบทั้งฉบับ และเมื่อสภาลงมติวาระสามแล้วเสร็จ ต้องส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาต่อทันที

 

 

 

              ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากมติศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ไม่โมฆะ แต่ให้โหวตวาระ 2-3 ใหม่นั้น ประธานสภาได้หารือพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ข้อสรุปว่า ในวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. จะประชุมสภาวาระปกติต่อเรื่องเดิมคือญัตติการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาเรื่องไม่รัฐประหารก่อน จากนั้นวันพฤบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ จะประชุมพิจารณาร่างงบประมาณวาระ 2 และวาระ 3 ใหม่ ถ้าไม่เสร็จให้พิจารณาต่อวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือ 15 กุมภาพันธ์ จนแล้วเสร็จ โดยเรื่องเวลาดังกล่าว 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นตรงกันทั้งหมด

              นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ที่ประชุมสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 วาระ 2-3 ใหม่ว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้านกับประธานสภา ได้ข้อสรุปว่าจะประชุมสภาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ วาระ 2 และ 3 ใหม่ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในฐานะวิปรัฐบาลต้องขอขอบพระคุณคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นอย่างมากที่เป็นทางออกให้ประเทศ

 

 

 

              ทั้งในการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 จะเปิดโอกาสให้ ส.ส. ได้อภิปรายอย่างเต็มที่ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าพิจารณาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ไม่เสร็จก็จะพิจารณาต่อในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในส่วนของวิปรัฐบาลจะกำชับ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ให้ทุกคนยึดข้อบังคับการประชุมสภาและข้อกฎหมาย โดยเฉพาะการเสียบบัตรลงคะแนนช่วงโหวตรายมาตราอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก และให้ทุกคนเข้าร่วมประชุมจนเสร็จสิ้นในการพิจารณาวาระ 3 ก่อนจะส่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาต่อไป

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ