
"สัปปายะสภาสถาน"ชนะออกแบบรัฐสภาใหม่
ชัยนำทีมกก.แถลงผลตัดสินแบบรัฐสภาใหม่อย่างเป็นทางการ ด้านรองปธ.สภา - รองประธานวุฒิ ต่างชี้เป็นแบบอาคารใหม่"สัปปายะสภาสถาน" เหมาะสมที่สุด แสดงออกเอกลักษณ์ไทย-ทุกคนเข้าถึง-อวดต่างชาติได้ไม่น้อยหน้า วอน สื่อช่วยปชส.ในทางดี คาด วางศิลาฤกษ์ปีหน้า ยัน ไม่มีล
(2ธ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสินการประกวดแบบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นำโดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี อดีตอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกันแถลงผลการตัดสินผู้ชนะการประกวดแบบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ
นางดวงขวัญ จารุดุล สถาปนิกใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมือง กรรมการฯ กล่าวว่าคณะกรรมการได้เริ่มให้มีการส่งผลงานเข้าประกวดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 มีผู้ยื่นเอกสารประกวดแบบทั้งสิ้น 99 ราย จำนวน 133 แบบ โดยคณะกรรมการตัดออก 2 ราย เนื่องจากขาดคุณสมบัติ จากนั้นได้คัดเลือกให้เหลือ 10 ราย เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2552 จากนั้นจึงคัดเลือกให้เหลือ 5 ราย เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2552 ซึ่งรอบสุดท้าย ทั้ง 5 ราย ได้พัฒนาแบบเป็นเวลา 90 วัน เพื่อนำเสนอในรูปแบบจำลอง พร้อมเอกสารการนำเสนอผลงาน จากนั้นได้นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเกณฑ์การตัดสินรวม 100 คะแนน แบ่งเป็น 1.แนวคิดในการวางผังแม่บท ผังบริเวณและภูมิทัศน์ 10 คะแนน 2.การตอบสนองความต้องการ ประโยชน์ใช้สอยและงบประมาณ รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมที่ทุกคนรวมถึงคนพิการและผู้สูงอายุสามารถเข้าถึง 25 คะแนน 3.แนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมและสถาปัตยกรรมภายในที่มีเอกลักษณ์ 40 คะแนน 4.การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 15 คะแนน และ 5. ประวัติและผลงานของคณะผู้ออกแบบ 10 คะแนน โดยอาคารรัฐสภาใหม่สร้างบนพื้นที่ 300,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 120 ไร่ ย่านเกียกกาย กรุงเทพฯ วงเงินก่อสร้างทั้งหมดไม่เกิน 12,000 ล้านบาท
นางดวงขวัญ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการ จำนวน 14 คน ได้รับฟังคำชี้แจงจากทั้ง 5 บริษัทได้แก่ 1.กลุ่มนายธีรพล นิยม 2.บริษัทสถาปนิก 49 จำกัด 3.นายธรรมศักดิ์ อังศุสิงห์ 4.บริษัทดีไซด์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 5.กลุ่มผู้ช่วยศาสตราจารย์วิเชษฐ์ สุวิสิทฐ์ ผลปรากฏว่า ผู้ชนะการประกวดแบบคือ แบบที่ 1 นายธีรพล นิยม ผลงานชื่อ “สัปปายะสภาสถาน” มีเหตุผลคือ ออกแบบได้สอดคล้องกับแนวคิดซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมไทย มีที่มาที่ไปยึดโยงและต่อเนื่องทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม วางผังแม่บทได้อย่างสมดุลและสง่างามโดยใช้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดเด่น มีหลังคาเครื่องยอดบนอาคารหลักชูสัญลักษณ์ความเป็นไทย พื้นที่ยืดหยุ่นใช้สอยได้ดี ยังมีการจัดวางอาคารที่ให้ความสำคัญกับงานพระราชพิธี รวมถึงจัดพื้นที่รองรับผู้ทำงานและจัดพื้นที่ด้านหน้าวางขนาดใหญ่รองรับประชาชน และยังตอบสนองการเข้าถึงจากประชาชนทุกกลุ่มได้อย่างดี มีระบบการสัญจรสะดวก และการอนุรักษ์พลังงานตลอดจนแผนสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เป็นอาคารสีเขียว นอกจากนี้ประวัติและผลงานคณะผู้ออกแบบเป็นผู้มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญน่าเชื่อถือทั้งคณะ
นางตรึงใจ กล่าวว่า คะแนนที่ให้ เน้นเรื่องรูปลักษณ์อาคาร ต้องเด่นเป็นสง่า เป็นหน้าตาของประเทศ แข่งกับนานาชาติได้ แบบที่ชนะ ได้นำแนวคิดประวัติศาสตร์ชาติไทย ศิลปวัฒนธรรม สะท้อนออกมา ส่วนอาคารประกอบถือว่าทันสมัยมาก จึงเป็นความสมดุลระหว่างความเป็นไทยและความทันสมัย ขณะเดียวกัน มีองค์ประกอบครบถ้วนตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ซึ่งต่างชาติมาเยี่ยมชม ก็สามารถอวดได้ โดยเฉพาะการให้แสงไฟเวลากลางคืนจะสวยงามมาก และอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
ด้านนายชัย กล่าวว่า ขอให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ในทางดี อย่าทำลายกัน เพราะขนาดยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็โดนแล้ว ขอความกรุณาให้ความเป็นธรรมกับคณะกรรมการชุดนี้ด้วย ส่วนคนที่พูดโจมตีว่า รูปร่างเหมือนเมรุเผาศพ คนพูดคงไม่เข้าใจแนวคิด ก็ไม่เป็นไร ทั้งนี้การก่อสร้างรัฐสภาใหม่ อย่างช้าจะเสร็จปี 2555
ส่วนกำหนดการวางศิลาฤกษ์ น่าจะเป็นในปี 2553 ซึ่งจะถือเป็นอนุสรณ์ของรัฐสภาแห่งใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า การวางศิลาฤกษ์คาดว่าจะเป็นปีหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย ส่วนข่าวต่างๆที่มีการโจมตีเช่น การล็อบบี้แบบ ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน ที่คณะกรรมการเลือกแบบนี้ ก็มีเหตุผลชี้แจงได้ ซึ่งมีเกณฑ์การให้คะแนนชัดเจน ขณะที่
ส่วนนายนิคม กล่าวว่า จะมีการจัดแสดงแบบจำลองอาคารัฐสภาใหม่ ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2553 นี้ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน