ข่าว

ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีแบน 3 สารเคมี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลปกครองกลาง สั่งไม่รับฟ้อง เครือข่ายเกษตรกร 6 จังหวัด ฟ้องเพิกถอนแบน พาราควอต ชี้ ขั้นตอนแค่เตรียมรอประกาศ ยังไม่มีผลเป็นกฎ คดีรอลุ้นยังมีต่ออุทธรณ์ได้อีก

 

              1 พ.ย. 62 ที่ ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ  ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้อง คดีหมายเลขดำ ส.26/2562 น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง พร้อมด้วยเครือข่ายเกษตรกร 6 จังหวัด 1,091 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการวัตถุอันตราย , คณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

 

 

              จากกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 ให้ยกเลิกการใช้สารเคมีป้องกัน กำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเสต และ คลอร์ไพริฟอส พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อทุเลาการบังคับตามมติดังกล่าว ที่กำหนดจะให้เริ่มแบนสามเคมีทั้ง 3 ชนิด ในวันที่ 1 ธ.ค. 62 ไว้เป็นการชั่วคราว ซึ่งผู้ฟ้องทั้ง 1,091 บรรยายฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องที่ 1 มีมติในการประชุมครั้งที่ 41-9/2562 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 เห็นชอบตามที่กรมวิชาการเกษตร เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงชนิดของวัตถุอันตราย ไกลโฟเสต คลอร์ไพริฟอส และ พาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 คือ วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง และผู้ถูกฟ้องที่ 2 มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2560 ให้ยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายดังกล่าว เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ถูกฟ้องที่ 3 ไม่มีมาตรการในการเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายจากมติของผู้ถูกฟ้องที่ 1 - 2 ดังกล่าว ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย

              โดย "ศาลปกครองกลาง" พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงชนิดของวัตถุอันตรายไกลโฟเสต , คลอร์ไพริฟอส และ พาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 นั้น

 

 

 

              พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาตรา 18 วรรคสอง กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ร่วมกันระหว่างผู้ถูกฟ้องที่ 1 กับ รมว.อุตสาหกรรม โดยการออกเป็นประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อมติของผู้ถูกฟ้องที่ 1 ในการประชุมครั้งที่ 41-9/2562 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 เป็นเพียงมติเห็นชอบตามข้อเสนอ ของกรมวิชาการเกษตรที่ขอให้มีการเปลี่ยนแปลงชนิดของวัตถุอันตราย ไกลโฟเสต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยกรมวิชาการเกษตรจะต้องไปจัดทำร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้วนำร่างประกาศดังกล่าวมาเสนอผู้ถูกฟ้องที่ 1 ในการประชุมครั้งต่อไป มติของผู้ถูกฟ้องที่ 1 ดังกล่าวจึงเป็นเพียงขั้นตอนการเตรียมการที่จะจัดให้มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่มีผลทางกฎหมายเป็นกฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดที่จะนำมาฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนได้ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบกับมาตรา 72 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 เช่นเดียวกับมติของผู้ถูกฟ้องที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 4/2560 ที่มีมติให้ยกเลิกการใช้วัตถุอันตราย ไกลโฟเสต คลอร์ไพริฟอส และ พาราควอต ก็เป็นเพียงการเสนอความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 2383/2559

 

 

 

              เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ลงวันที่ 26 ธ.ค. 59 เท่านั้น ไม่มีผลทางกฎหมายเป็นกฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดของฝ่ายปกครองที่จะนำมาฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนได้เช่นกัน "ศาลปกครองกลาง" จึงไม่อาจรับคำฟ้องของผู้ฟ้องทั้ง 1,091 คน ไว้พิจารณาได้ และไม่จำต้องวินิจฉัยตามคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องดังกล่าว ดังนั้น "ศาลปกครองกลาง" จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี คำวินิจฉัยนี้เป็นการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น ซึ่งคู่กรณีสามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดในคำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องได้ภายใน 1 เดือนนับจากที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ