ข่าว

กมธ.วิสามัญพิจารณางบฯปี 63  ครม.15-ฝ่ายค้าน 24- รบ. 24

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองโฆษก รบ. เผย สัดส่วนกมธ.วิสามัญพิจารณางบฯปี 63 ครม.15-ฝ่ายค้าน 24-รัฐบาล 24 ระบุ คุณสมบัติต้องมีความรู้-แม่นยำเนื้อหา-มีเวลา ไม่พลาดลงมติสำคัญ

         เมื่อเวลา 14.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ถึงสาเหตุของการประเด็นเลื่อนประชุมครม.จากวันที่ 8 ต.ค.มาเป็นวันจันทร์ที่ 7 ต.ค.นี้ เนื่องจากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แม้ตัวเลขไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากวงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท แต่มีรายละเอียดต่างๆต้องพิจารณาประกอบ ซึ่งที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดเอกสารประกอบงบประมาณ รวม 35 เล่ม ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561

     

          นอกจากนั้น  ครม.ยังเห็นชอบตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ  ซึ่งกมธ.วิสามัญฯ มีทั้งหมด 63 คน แบ่งเป็นสัดส่วนครม.15 คน ฝ่ายค้าน 24 คน และฝ่ายรัฐบาล 24 คน โดยในสัดส่วน ครม. อาทิ รมว.คลัง รมช.คลัง และปลัดกระทรวงการคลัง ส่วนอีก 12 รายชื่อ จะพิจารณาในลำดับต่อไป

         ทั้งนี้ในที่ประชุมครม.ได้หารือว่าผู้ที่จะเข้ามาเป็นกมธ.วิสามัญได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาอย่างแม่นยำ และเป็นบุคคลที่มีเวลา เพราะหากมีการลงมติในมาตราใดแล้วตัวแทนคณะรัฐบาลไม่อยู่ อาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้ 

        สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แบ่งตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ 7 ด้าน ได้แก่

    1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง วงเงิน 4.28 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.4% ของงบประมาณทั้งหมด
     2. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันวงเงิน 3.8 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 11.8% ของงบประมาณทั้งหมด

     3. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์วงเงิน 5.7 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 17.9% ของงบประมาณทั้งหมด

     4. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมวงเงิน 7.66 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23.9% ของงบประมาณทั้งหมด
     5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วงเงิน 1.18 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.7% ของงบประมาณทั้งหมด

    6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐวงเงิน 5.04 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.8% ของงบประมาณทั้งหมด 7.รายการค่าดำเนินการภาครัฐวงเงิน 4.31 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.5% ของงบประมาณทั้งหมด

        ทั้งนี้ หากแบ่งการจัดสรรงบประมาณออกเป็นรายกระทรวงพบว่าในปีงบประมาณ 2563 งบประมาณที่มีการจัดสรรสูงสุดได้แก่งบกลางรายการสำรองจ่าย กรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งเป็นอำนาจการอนุมัติของนายกรัฐมนตรีซึ่งจัดสรรเป็นวงเงินถึง 5.18 แสนล้านบาท รองลงมาคือกระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรร 3.68 แสนล้านบาท กระทรวงมหาดไทยได้รับการจัดสรรวงเงิน 3.53 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังได้รับการจัดสรรวงเงิน 2.49 แสนล้านบาท กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรวงเงิน 2.33 แสนล้านบาท

        ส่วนกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณน้อยที่สุดได้แก่ กระทรวงพลังงานได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2,158 ล้านบาท กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับการจัดสรรงบประมาณ 5,363.8 ล้านบาท และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รับการจัดสรรวงเงิน 6,071 ล้านบาท

 

  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ