เท่าพิภพ ซัด รมต.คลัง เกณฑ์ผลิตเบียร์เอื้อกลุ่มทุน

"เท่าพิภพ"  ซัด "สันติ" ใช้เกณฑ์ผลิตเบียร์มาก เพื่อคุมมาตรฐาน ฟังไม่ขึ้น มองกฎกระทรวงการคลัง ขออนุญาตผลิตเบียร์ กำหนดเกณฑ์ผลิต 1 แสนลิตรต่อปี ขวางผู้ประกอบการรายย่อย ด้าน "รมช.คลัง" ยันไม่เอื้อนายทุน แต่ต้องการคุมมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยผู้บริโภค

          ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ทั่วไป นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ตั้งกระทู้ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงบทบัญญัติในกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ.2560  ของกระทรวงการคลัง ที่มีลักษณะกีดกันการค้าเบียร์ ของกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย เพราะบทบัญญัติของกฎกระทรวงที่กำหนดให้ผู้ประกอบการรายย่อยต้องขอรับใบอนุญาต ผ่านเงื่อนไขที่ต้องมีเงินทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ทำให้ผู้ที่มีความฝันและอยากประกอบอาชีพหลังเรียนจบไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีเงินทุน ขณะเดียวกันการกำหนดปริมาณของการผลิตเบียร์ที่ ปีละ 1แสนลิตร กรณีไม่บรรจุขวด หรือผลิต 10 ล้านลิตรต่อปีเพื่อบรรจุขวดและขายพื้นที่อื่นๆ ทำให้มีลักษณะกีดดันผู้ค้ารายย่อย ดังนั้นกฎกระทรวงดังกล่าวถือว่าเอื้อนายทุนเท่านั้น จึงต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าเอื้อนายทุนใช่หรือไม่

          ทั้งนี้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่ากฎกระทรวงดังกล่าวไม่เอื้อต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ เหตุผลที่ต้องกำหนดปริมาณผลิตจำนวนมากนั้น เพราะสินค้าบริโภคประเภทเครื่องดื่มต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย กระทรวงการคลังต้องกำหนดกำลังการผลิตดังกล่าว คือ 1 แสนลิตร ต่อปี หรือเดือนละ 8,300 ลิตร หรือ วันละ 300 ลิตร ปริมาณขั้นต่ำและทุนจดทะเบียนที่ใช้ 10 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถเข้าแข่งขันในตลาดได้นั้น กรมสรรพสามิตร อยู่ระหว่างศึกษาเรื่องทุนจดทะเบียนให้เหมาะสม    

          "การผลิตต้องมีมาตรฐานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะเบียร์ หากไม่มีความปลอดภัย หรือมาตรฐานจะเกิดปัญหาได้ ส่วนโรงเบียร์ขนาดใหญ่ที่ผลิตในประเทศ 3-4 ราย ต้องมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ผลิตขั้นต่ำ 10 ล้านลิตรนั้นไม่ได้กีดกัน โดยเฉพาะผลิตเบียร์ไม่มีข้อห้ามการผลิต เพราะเป็นไปโดยเสรี แต่ผู้ผลิตต้องได้รับใบอนุญาตเพื่อให้การผลิตมีมาตรฐานและความปลอดภัย" นายสันติ ชี้แจง

         ทั้งนี้ นายเท่าพิภพ กล่าวตอนท้ายด้วยว่า "ผลิตเยอะไม่ใช่ว่าคุณภาพจะดี การผ่อนปรนใบอนุญาตให้คุณภาพเบียร์ดีขึ้น ซึ่งกรมสรรพสามิต สามารถส่งตรวจในห้องแล็ปได้ ดังนั้นกรณีกำหนดปริมาณ เพื่อวัดมาตรฐานคุณภาพนั้นเป็นสิ่งที่ฟังไม่ขึ้น" 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายเท่าพิภพนั้น รู้จักในวงการของผู้ผลิตคราฟต์เบียร์และก่อนเป็นส.ส.นั้น เคยทำกิจกรรมรณรงค์ให้การผลิตคราฟต์เบียร์เป็นสิ่งที่ไม่ถูกกีดกัดหรือถูกผูกขาดจากกลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ของประเทศไม่กี่บริษัท.