ข่าว

รมว.การอุดมฯ เร่ง คัดเแยก 14.5 ล้าน ผู้ถือบัตรคนจน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 รมว.การอุดมฯ เร่ง คัดเแยก 14.5 ล้าน ผู้ถือบัตรคนจน  หลังพบคนไม่เข้าเกณฑ์ เข้าโครงการมารดาประชารัฐ พร้อมถอดรหัส ข้อคิดรัฐบาล-ฝ่ายค้าน แปลงเป็นนโยบาย

 

           ทำเนียบรัฐบาล-30 ก.ค.62- นายสุวิทย์ เมศินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวตกรรม ให้สัมภาษณ์ถึง โครงการมารดาประชารัฐที่จะให้สิทธิกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ว่า กำลังศึกษารายละเอียดอยู่เพราะว่าเรื่องของมารดาประชารัฐแล้วก็เรื่องของบัตรสวัสดิการเป็นส่วนหนึ่งที่ทางพรรคพลังประชารัฐ (พแชร.)จะผลักดัน แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในกรอบนโยบายที่ได้แถลงต่อสภา ในส่วนของบัตรสวัดิการแห่งรัฐต้องมีการปรับปรุง เพราะ คนถือบัตรจำนวน 14.5 ล้านคน มีคนที่ไม่เข้าเกณฑ์ ต้องดูว่าจะล้างทิ้งยังไง นอกจากนี้มีคนที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนของโครงการมารดาประชารัฐ จะถึงจุดที่รับสมบูรณ์ประมาณ 6 ขวบ รวมถึงช่วงตั้งครรภ์ด้วย คาดว่าน่าจะเริ่มต้นได้ประมาณต้นปีหน้า เดือน มกราคม
เริ่มจากคนที่คนที่มีรายได้น้อยก่อนแล้วก็ค่อยๆขยายผลไป

 

            รมว.การอุดมฯ เร่ง คัดเแยก 14.5 ล้าน ผู้ถือบัตรคนจน

            นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องงบประมาณจะมีพอหรือไม่นั้น ทางทีมงานมีการศึกษาอยู่แล้ว เพราะในบางส่วนมีงบปกติได้ใช้กันอยู่แล้ว ในเรื่องของสวัสดิการให้แก้ผู้คลอดบุตร ดังนั้นตอนนี้อยู่ที่ว่าทำอย่างไรงบประมาณไม่ซ้ำซ้อน
และก็จะเติมเต็มลงไปในส่วนที่เหลือยังไง

            เมื่อถามถึงกระแสภายหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภานายสุวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องเดินหน้าทำงาน และเราจะ ต้องถอดรหัสแนวคิดดีๆของนโยบายของรัฐบาลรวมถึงข้อคิดเห็นของฝ่ายค้าน หลังจากนั้นต้องมีการจัดกลุ่ม แล้วก็มาแปลงเป็นนโยบายของกระทรวงต่างๆ ว่าจะทำงานร่วมข้ามกระทรวงกันอย่างไรเพราะว่านโยบายรัฐบาลหลายเรื่องนี้ไม่ใช่งานของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งโดยเฉพาะ

รมว.การอุดมฯ เร่ง คัดเแยก 14.5 ล้าน ผู้ถือบัตรคนจน

           เมื่อถามถึงกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงการยุติธรรม ออกมาระบุว่ากัญชาเสรีไม่สามารถทำได้เนื่องจากติดขัดผิดกฎหมาย นายสุวิทย์ กล่าวว่า ต้องไปถามนายสมศักดิ์ แต่ในส่วนของกระทรวงการอุดม เราจะทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการดูเรื่องการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับกัญชาเท่านั้นแต่นายกรัฐมนตรีได้ให้โจทย์มาในเรื่องของการชงด้วย เนื่องจากสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอได้ ส่วนเรื่องนโยบายกัญชาเสรีนั้น ขอให้ไปถามนายอนุทินชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตรงคิดว่าคงต้องมีการคุยกัน คงต้องมีการคุยกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน 

      เมื่อถามถึงการตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีนายสุวิทย์กล่าวว่าตนไม่รู้สึกกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและระบบ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ