ข่าว

"ส.ว."ติวเข้มเสนอแนะนโยบาย-ลดกระแส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ส.ว."ติวเข้มเน้นเสนอแนะนโยบาย-ลดกระแสฝ่ายค้านอภิปรายรมต.รายบุคคลติง วิปรบ.​ให้เวลาน้อย จ่อขอปรับไม่ต่ำ 6 ชั่วโมง

 

22 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จัดสัมมนาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อเตรียมคามมพร้อมต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาล ชุดที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อรัฐสภา วันที่ 25 - 26 กรกฏาคม 

 

ทั้งนี้ในงานสัมมนาดังกล่าว ส.ว. ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสรรเวลาในการอภิปราย ตามที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)  แจ้งว่า มีเวลารวม 28 ชั่วโมง 30 นาที แบ่งเป็นของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 13 ชั่วโมง 30 นาที, พรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 5 ชั่วโมง, คณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 5 ชั่วโมง และ ส.ว. จำนวน 5 ชั่วโมง ว่า อาจไม่เพียงพอ และส.ว.ต้องการเวลาเพิ่มจากที่กำหนดไว้ดังกล่าว รวมถึงมีข้อเสนอให้ส.ว.เน้นการเสนอแนะด้านนโยบายเพื่อลดกระแสการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามที่ส.ส.พรรคฝ่ายค้านเตรียมดำเนินการ

 

โดย นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. กล่าวต่อหนึ่งด้วยว่าตนไม่มั่นใจว่าการจัดสรรเวลาให้อภิปรายนโยบายของรัฐบาล จำนวน 2 วันจะเพียงพอหรือไม่ เพราะเวลาที่กำหนดและรับทราบ ไม่รวมเวลาที่จะต้องประท้วงของ ส.ส. แต่ละฝ่าย รวมถึงไม่นับรวมเวลาที่นายกฯ นำเสนอนโยบายและผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายเปิดและอภิปรยาปิด ทั้งนี้กังวลต่อประเด็นเมื่อเวลาใกล้หมด ส.ว.ที่อยู่ในลำดับอาจไม่ได้สิทธิอภิปราย  

 

ขณะที่นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. กล่าวว่าหากเทียบเกณฑ์อภิปรายของ ส.ว. ในการอภิปรายรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศ เมื่อวันที่ 8 กรกฏาคม มี ส.ว. อภิปรายทั้งสิ้น 45 คน และได้เวลาคนละ 8 นาที ทำให้มีเวลาอภิปรายรวมทั้งหมด เกือบ 6 ชั่วโมง ดังนั้นหากยึดหลักการดังกล่าวในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลต้องได้เวลาเกินกว่า 5 ชั้วโมง

 

อย่างไรก็ตามในวันที่ 23 กรกฏาคม ที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะเรียกตัวแทนของ 3 ฝ่าย คือ วิปฝ่ายค้าน, วิปฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. หารือต้องขอให้ทบทวนการจัดสรรเวลาดังกล่าวให้เพียงพอต่อการอภิปรายของส.ว.ด้วย อย่างไรก็ตามในหลักการของการอภิปรายนโยบายรัฐบาลนั้น เวลาที่นายกฯ นำแถลงนโยบาย และเวลาที่ผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายนั้นจะไม่นำมานับรวมกับเวลาการอภิปรายที่กำหนดไว้ดังกล่าว แต่ที่ตนกังวลคือการประท้วง

 

"ผมอ่านข่าวจากสื่อมวลชน ว่ารัฐบาลตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี ประมาณ 20 - 30 คน เพื่อตอบโต้ฝ่ายค้านที่จะอภิปรายตัวบุคคล โดยหลักการและกฎหมายการแถลงนโยบายรัฐบาลไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวบุคคล แต่เชื่อว่าฝ่ายค้านจะอดไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่เป็นห่วงคือจะใช้เวลามาก ต่อให้จัดประชุม 3 วันอาจไม่พอ อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าในวันที่ 26 กรกฎาคม การอภิปรายต้องจบภายในเวลาเที่ยงคืน" นพ.เจตน์ กล่าว​

 

นพ. เจตน์ กล่าวด้วยว่า ส.ว. ไม่มีหน้าที่อภิปรายสนับสนุนหรือปกป้องตัวบุคคล เว้นแต่อภิปรายถึงผลงานที่ผ่านมาว่าทำได้ดีอย่างไร แต่ไม่สามารถอภิปรายว่าที่ผ่านมาทำไม่ดี เนื่องจากเป็นหน้าที่ของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่จะดำเนินการ ดังนั้นส.ว.ควรเน้นนโยบายในเชิงให้ข้อเสนอแนะแบบผู้ใหญ่ โดยพิจารณาจากนโยบายของรัฐบาลใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นสัญญาว่าจะทำ ว่าเหมาะสมหรือไม่ หรือ ขาดอะไรบ้าง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าเมื่อวางหลักการดังกล่าวจะทำให้การประชุมกลับมาพิจารณาเรื่องนโยบายและลดกระแสการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลใด 


ขณะที่พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ส.ว. กล่าวว่านโยบายของรัฐบาลที่จัดทำครอบคลุมและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ และ แผนการปฏิรูปประเทศ ส่วนที่กำหนดเป็นแผนทำงานเร่งด่วน จำนวน 15 เรื่องนั้น ตนทราบว่าเป็นเรื่องที่ ครม.ชุดเก่า รับทราบไว้เท่านั้น ยังไม่มีมติหรือประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นทำให้ครม.ชุดใหม่สามารถปรับปรุงได้

 

ดังนั้นจึงเป็นช่วงของการตั้งไข่ ทั้งนี้ในแผนปฏิรูปหลายๆ ด้านพบว่ามีหลายประเด็นที่ไม่คืบหน้า ซึ่งส.ว.สามารถอภิปรายรายละเอียดได้ เช่น ด้านการเมืองที่รัฐบาลไม่สามารถเข้าควบคุมหรือกำกับหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับ เช่น สถาบันพระปกเกล้า, คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น ทั้งนี้แผนการปฏิรูปทุกแผน ต้องเสร็จสิ้นภายในปี 2565 หรือ ภายในสมัยรัฐบาลปัจจุบัน รวมถึงงบประมาณที่จัดสรรจะเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนั้นส.ว.สามารถตั้งประเด็นอภิปรายที่สำคัญ คือ การปฏิบัติที่สอดคล้องกับแผนแม่บท แผนปฏิรูป นโยบายรัฐบาลและงบประมาณที่จะใช้.

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ