ข่าว

"ณฐพร" ชี้พฤติกรรม อนค.เป็นอันตรายต่อการปกครอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ณฐพร" ร้องสอบ "ธนาธร" เหตุพฤติกรรมกก.บห.-ข้อบังคับพรรคอนค.แอบอ้างปชต. เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

 

"ณฐพร" ระบุดอดร้องสอบ "ธนาธร" เหตุพฤติกรรมกก.บห.-ข้อบังคับพรรคอนค.แอบอ้างประชาธิปไตย เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  ยันไม่ได้รับงานใคร ไม่ได้โกรธแค้นส่วนตัว ขณะที่บทบัญญัติรธน. ส่อทำ อนค.ลุ้นระทึก โทษถึงยุบพรรค ตัดสิทธิการเมือง

 

          วันที่ 19 ก.ค.62 - นายณฐพร โตประยูร ผู้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ เปิดเผยว่า ตนไปยื่นร้องเรื่องนี้เงียบ ๆ โดยคำร้องมีหลายประเด็นทั้งพฤติกรรมการกระทำของหัวหน้าและแกนนำพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงข้อบังคับพรรคอนาคตที่มีการเขียนในลักษณะไม่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยก่อนหน้านี้ได้ยื่นร้องต่ออัยการสูงสุด และทราบว่ามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อเตรียมที่จะยื่นเรื่องมายังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว


          นายณฐพร กล่าวอีกว่า การดำเนินการเรื่องดังกล่าวไม่ได้มีเบื้องหลังหรือไปรับงานใครมา รวมทั้งตนก็ไม่ได้ทำเพราะโกรธแค้นหรือมีปัญหาอะไรกับนายธนาธรหรือนายปิยบุตรมาก่อน เพราะไม่เคยรู้จัก เพียงแต่เห็นว่าการกระทำของแกนนำและพรรคอนาคตใหม่มีลักษณะเอาระบอบประชาธิปไตยมาอ้าง แต่แท้จริงแล้วมีเจตนาที่ไม่มีดีกับสถาบันเบื้องสูง

 

          "ก่อนหน้านี้ผมเป็นที่ปรึกษาหลายองค์กรก็ลาออกจากทุกตำแหน่งมาทำเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย ถ้าได้อ่านสำนวนคำร้องฉบับเต็มของผมจะเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องประชาธิปไตยโดยตรงตรง ผมไม่ต้องการให้ใครแอบแฝงเอาประชาธิปไตยมาอ้าง ผมเก็บข้อมูลของเขาตั้งแต่พฤติการณ์เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงข้อบังคับพรรคบอกได้เลยว่ามันเป็นอันตรายกับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" นายณฐพร กล่าว

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณฐพร เคยเป็นอดีตทนายความของนายวีระ สมความคิด อดีตทนายความเครือข่ายหัวใจคนไทยรักชาติ และอดีตที่ปรึกษากฎหมายของประธานผู้ตรวจการแผ่นดินมาก่อน ขณะที่รัฐธรรมนูญมาตรา 49 กำหนดไว้เพียงว่าผู้ใดทราบว่ามีการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระกษัตริย์ทรงเป็นประมุขสามารถร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้ หากอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วันผู้ร้องสามารถยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงได้


          ทั้งนี้การกระทำที่เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเป็นเหตุยุบพรรค เพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคยังกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 92 ซึ่งกรณีดังกล่าวยังไม่แน่ชัดว่า จะต้องเป็นกรณีที่ศาลพิจารณาจากคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมืองเท่านั้นหรือไม่ หรือหากศาลฯดำเนินการไต่สวนแล้วมีหลักฐานอันควรได้ว่าพรรคการเมืองมีการกระทำการที่มีการล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขก็สามารถพิจารณาสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิทางการเมืองได้.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ