"พท. - อนค." ร้อง "กกต." เลือกตั้งใหม่ "พญาไท - บางกะปิ"

 

               สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 29 มี.ค. 62 เวลา 10.00 น.  นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส. เขต 13 บางกะปิ พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ณิชชา บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 13 บางกะปิ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายคริส โปตระนันทน์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 พญาไท พรรคอนาคตใหม่ นำหลักฐานเข้ายื่นกับ กกต. เพื่อขอให้นับคะแนนใหม่ ในเขต 6 พญาไท และเขต 13 บางกะปิ หากพิสูจน์แล้วหลักฐานการทุจริตมีความชัดเจน ก็ขอให้จัดการเลือกตั้งใหม่

 

 

 

               นายตรีรัตน์ กล่าวว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 13 บางกะปิ มีความผิดปกติในหลายประเด็น เช่น ผู้มาใช้สิทธิ์น้อยกว่าบัตรเลือกตั้ง และการขานคะแนนนับบัตรในสถานที่ที่ไม่มีแสงสว่างเพียงพอ รวมทั้งมีการซื้อเสียงหัวละ 500 บาท ซึ่งที่ผ่านมาผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย - อนาคตใหม่ ได้ประชุมหารือร่วมกับเลขาฯ ของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ขอแยกตัวไปยื่นคัดค้านผลคะแนนต่อ กกต. ในนามของพรรค

               ส่วน น.ส.ณิชชา กล่าวว่า หลังปิดหีบนับคะแนน ตนมีคะแนนนำมาโดยตลอด แต่ช่วงเวลาหนึ่งคะแนนก็ลดลงมากกว่า 400 คะแนน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ตนจึงยื่นขอตรวจสอบผลคะแนนที่สำนักงานเขตไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับผลคะแนนที่ชัดเจน จึงขอให้ กกต.กลาง เปิดเผยผลคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้ง และทุกหน่วยของ กทม.

               ด้าน นายคริส กล่าวว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 6 มีปัญหาทั้งเรื่องการจัดการเลือกตั้งและนับคะแนน มีการลงคะแนนที่ไม่ลับ เนื่องจากทหารชะโงกดูการลงคะแนนในคูหา มีการขานนับคะแนนซ้ำ 2 ครั้ง ให้กับผู้สมัครบางพรรค และมีคนไปคอยเช็กอยู่ตลอดว่าผู้มีสิทธิ์ไปลงคะแนนที่ไหนอย่างไร รวมถึงความผิดปกติที่ผู้มาใช้สิทธิ์ครบทั้ง 5 หน่วย หน่วย 18 ซึ่งผู้มีสิทธิ์ 555 คน มาใช้สิทธิ์ครบทั้งหมด หรือในเขต 21 ผู้มีสิทธิ์ 524 คน ก็มาใช้สิทธิ์ครบ ดังนั้น จึงขอให้ กกต. จัดการเลือกตั้งใหม่ในเขต 6

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               ต่อมาเวลา 13.00 น. ผู้สมัคร ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นำโดย นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย เขต 3 นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ เขต 5 เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ กกต. จัดการเลือกตั้งใน จ.สมุทรปราการ ใหม่ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า การเลือกตั้งใน จ.สมุทรปราการ มีการทุจริตอย่างเป็นระบบ ทำให้วาทกรรมสมุทรปราการเมืองโคตรโกงกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระใช้งบประมาณมากกว่า 5,800 ล้านบาท ในการจัดการเลือกตั้ง แต่ปล่อยให้มีการทุจริต โดยเฉพาะการใช้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. อบต. ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ไปเป็นกลไกในการหาเสียงให้กับพรรคการเมือง นอกจากนี้ยังปรากฏภาพถ่าย นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ไปขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ทุกเขตเลือกตั้งของสมุทรปราการก็มีการกระทำเช่นเดียวกันทั้งจังหวัด ตนจึงขอคัดค้านผลการเลือกตั้ง และขอให้ กกต. จัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของคนสมุทรปราการ

               "การทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียงแบบเทกระจาดที่เกิดขึ้นเป็นการนำโมเดลโคตรโกงในสมุทรปราการไปรวมกับโคตรโกงทั้งแผ่นดิน กลายเป็นโคตรโกงทั้งชาติ มีครบทั้งเวียนเทียนบัตร ยัดบัตรใส่หีบ เด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์เลือกตั้ง และคนที่ตายไปแล้วก็ยังมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง กกต. จึงต้องตรวจสอบ หากไม่ทำก็ถือว่า กกต. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสียเอง" นายประเสริฐ กล่าว

               นางสลิลทิพย์ กล่าวว่า ใน ต.คลองด่าน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อเห็นผู้สูงอายุไปแสดงตนใช้สิทธิ์และต้องการกาคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทย กปน. ก็จะแนะนำให้กาทับโลโก้พรรค ทำให้ในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวมีบัตรเสีย 50 ใบ