ข่าว

พปชร. ไม่เอาตำแหน่ง นายกฯ ไปล่อให้ร่วมรัฐบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สนธิรัตน์" เผย หารือจัดตั้งรัฐบาลคืบหน้า ย้ำ จุดยืน "ลุงตู่" ต้องเป็น นายกฯ เท่านั้น บอกแมววิ่งผ่านหน้า "ลุงตู่" เป็นมงคล เพราะแมวกำลังจะจับหนูได้

 

               เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังจากที่ทางพรรคได้มีการประกาศความพร้อมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่า ทุกอย่างก็มีความคืบหน้าไปหลังจากที่เมื่อวานท่านหัวหน้าพรรคได้แถลงข่าวไปว่าเราจะเริ่มดำเนินการ ตอนนี้ทุกอย่างก็อยู่ระหว่างการเดินหน้าเรื่องนี้อยู่ ก็มีความก้าวหน้าไปพอสมควร แต่ก็ต้องรอดูผลอย่างเป็นทางการที่ชัดเจนจากทาง กกต. ก่อน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการคำนวณกันอยู่

 

 

 

               เมื่อถามว่า ได้พรรคร่วมรัฐบาลที่ชัดเจนแล้วหรือยัง นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ยังมั่นใจว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ก็ต้องให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสในการพูดคุยกันก่อนเป็นธรรมดา ซึ่งเบื้องต้นได้มีการติดต่อพูดคุยไปแล้ว และมีทิศทางที่เป็นบวก ทั้งบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องการต่อรองตำแหน่ง

               เมื่อถามว่า รวบรวมเสียงได้ถึง 280 หรือยัง นายสนธิรัตน์ ตอบว่า พรรคมีความมั่นใจ ขอให้สบายใจว่าไม่ต้องเร่งรีบยังมีเวลา เพราะว่ายังต้องรอดูอีกหลายอย่าง โดยภาพรวมภาพใหญ่ตอนนี้ พรรคยังยืนยันว่า มีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามที่พรรคได้ประสานอยู่ และหากพูดคุยได้เรียบร้อยเมื่อใดก็จะแถลงข่าวเมื่อนั้น

               เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาประกาศถึงความชอบธรรมว่าพรรคที่ควรจัดตั้งรัฐบาลคือ พรรคที่ได้ ส.ส. มาก ไม่ใช่ที่มีคะแนนเสียงมาก นายสนธิรัตน์ ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการแก้เรื่องของ "พวกมากลากไป" โดยเคารพเสียงของประชาชนทุกคนทุกเสียง ไม่ว่าเสียงที่ลงไปนั้นจะทำให้ผู้สมัครที่สนับสนุนได้รับเลือกตั้งหรือไม่ แล้วก็เอาเสียงที่ได้รับการสนับสนุนทั้งประเทศเอามารวมกัน แล้วถึงนำมาคำนวณจำนวนสัดส่วน ส.ส. บัญชีรายชื่อ ที่พึงมี ก็คือ ระบบที่เคารพเสียงของประชาชนทุกเสียง

 

 

 

               "ที่จริงแล้วต้องขอเรียนว่า สิ่งสำคัญอีกอย่างที่พรรคไม่ได้กล่าวไปก็คือ จะเห็นว่าพรรคของเรามีความแตกต่างจากหลายๆ พรรคก็คือ เรามีเสียงของ ส.ส. ครบทุกภาคทั่วประเทศ รวมทั้ง กทม. ขณะที่บางพรรคยังไม่มีในบางภาคด้วยซ้ำไป เมื่อพูดถึงจำนวนเสียงที่เราได้รับความไว้วางใจกับทั้งประเทศ มันสะท้อนถึงเสียงที่แท้จริงของพี่น้องประชาชน

               ส่วนที่นั่ง ส.ส. แน่นอนว่า ใครที่ได้รับความนิยมในภาคใด ก็อาจมี ส.ส. อยู่ในภาคนั้นมาก ซึ่งเป็นปัญหาในอดีตที่เกิดขึ้น และอาจทำให้ไม่ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเลย เป็นต้น จะเห็นว่าการเลือกตั้งในลักษณะนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นตัวที่ทำให้เห็นสาเหตุของปัญหาในอดีต ก็คือที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งทางพรรคก็เคารพในแนวทางของตัวรัฐธรรมนูญ และมองว่าเราได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ไม่ว่าประชาชนจะสนับสนุนพรรคใดก็ตาม ไม่ว่าผู้สมัครจะได้รับเลือกหรือไม่ก็ตาม แต่ทุกเสียงจะต้องได้รับการรับฟัง จากการพิจารณาคะแนนเสียงตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้" นายสนธิรัตน์ ระบุ

               เมื่อถามว่า พรรคมีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ตนมองว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นรอง แต่ประเด็นหลักก็คือ พรรคที่จะเป็นรัฐบาลหรือจะถูกเลือกเป็นรัฐบาลต้องมีเสียงสนับสนุนที่มากเพียงพอ ดังนั้น จึงหมายความว่าเป้าหมายคือตรงนั้นมากกว่า ใครรวบรวมเสียงได้มากจนกระทั่งสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นั่นคือความชอบธรรมที่แท้จริง

 

 

 

               เมื่อถามว่า ได้มีการติดต่อไปพูดคุยกับทางพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้วหรือไม่ นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ขอสงวนคำตอบในเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะเราได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้วในหลายๆ พรรคไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง

               เมื่อถามถึงแนวโน้มที่ทางพรรคภูมิใจไทยจะไปร่วมกับทางฝั่งพรรคเพื่อไทย แล้วเสนอชื่อ "อนุทิน" ให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ ระบุว่า เป็นสิทธิ์ของทุกพรรคที่จะเสนอกัน เพียงแต่ว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ใช้วิธีการอย่างนั้น พรรคพลังประชารัฐเคารพในเวลาหาเสียงกับพี่น้องประชาชน วันที่พรรคหาเสียงพรรคบอกพี่น้องประชาชนว่า หากพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจ เราจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นหลังการเลือกตั้ง เราก็ยังยืนยันเจตนารมณ์เช่นนั้นก็คือ ถ้าใครจะเข้ามาร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องเสนอ "พล.อ.ประยุทธ์" เป็น นายกฯ เราจะไม่เอาตำแหน่ง นายกฯ ไปมอบให้กับใคร เราเคารพในการตัดสินใจของประชาชน ที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ และเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกฯ ตามที่เราได้หาเสียง เราจะไม่เอาตำแหน่งนายกไปแลกเพียงเพื่ออยากเป็นรัฐบาล ตรงนี้คือจุดยืนของพรรคที่เป็นประชาธิปไตยชัดเจน ทั้งย้ำว่า "หลักการของพรรคเมื่อไปเจรจากับพรรคใดก็ตาม เราจะไม่เอาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปล่อ ให้เข้ามาร่วมรัฐบาล"

 

 

 

               เมื่อถามถึงเรื่องการเลือกตั้งซ่อมที่อาจเกิดขึ้นในบางเขต นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ตนว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เริ่มมีเสียงร้องเรียนเกิดขึ้นในบางพื้นที่ แม้กระทั่งบางเขตของพรรคเองได้มีการร้องเรียนเช่นกัน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้อง ให้ทาง กกต. สรุปก่อนว่า ผลของการเลือกตั้งในบางเขตที่อาจมีปัญหานั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อทั้งของเขตและต่อปาร์ตี้ลิสต์ด้วย ซึ่งทาง กกต. มีสิทธิ์ประกาศผลออกมาอย่างช้าคือวันที่ 9 พ.ค.

               ทั้งระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ช่วงเช้าทางพรรคได้เตรียมการที่จะไปขอบคุณประชาชนคนกรุงเทพฯ ที่ได้ให้การสนับสนุนกับพรรค โดยพรรคจะนำผู้สมัครกรุงเทพฯ ของพรรคทั้งหมด และผู้บริหารของพรรคขึ้นรถแห่เพื่อไปขอบคุณพี่น้องประชาชน โดยจะรวมตัวกันตอนช่วง 09.00 น. ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ก่อนเริ่มเคลื่อนขบวนรถแห่

               เมื่อถามถึงกรณีที่มีแมวดำวิ่งตัดหน้า "พล.อ.ประยุทธ์" เมื่อช่วงเช้า นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ตนดูแล้ว ไม่คิดว่าแมวนั้นวิ่งตัดหน้า แต่เป็นเพียงแมวที่วิ่งไล่จับหนู มองว่าเป็นมงคล เพราะแมวกำลังจะจับหนูได้

 

 

 

พปชร. ไม่เอาตำแหน่ง นายกฯ ไปล่อให้ร่วมรัฐบาล

 

 

 

พปชร. ไม่เอาตำแหน่ง นายกฯ ไปล่อให้ร่วมรัฐบาล

 

 

 

พปชร. ไม่เอาตำแหน่ง นายกฯ ไปล่อให้ร่วมรัฐบาล

 

 

 

พปชร. ไม่เอาตำแหน่ง นายกฯ ไปล่อให้ร่วมรัฐบาล

 

 

 

พปชร. ไม่เอาตำแหน่ง นายกฯ ไปล่อให้ร่วมรัฐบาล

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ