'ม็อบสนามหลวง'ยืดเยื้อรอ'สุกงอม'

              เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ขบวนเดินทางไกลฯ จากลำตะคองมาถึงสนามไชย ค่อนข้างทุลักทุเล ชาวบ้านต้องนอนตากฝน เพราะไม่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า แต่แกนนำเครือข่ายภาคประชาชนอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวแบบจรยุทธ์ เพื่อให้ฝ่ายรัฐจับทิศทางไม่ถูก

              กว่าจะตั้งหลักได้ก็ตอนย้ายเวทีมาสนามหลวง และเริ่มทำกิจกรรมบ้าง โดยเฉพาะการนัดชุมนุมใหญ่ค่ำวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2556

              ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ โฆษกเครือข่ายภาคประชาชนไทย แจงถึงสาเหตุที่ต้องรวมพลังประชาชนไทย เพราะกรณีแรก ส.ส. ส.ว. กว่า 300 คน ได้แสดงความไม่เคารพ และปฏิเสธศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีประชาชนกลุ่มหนึ่งได้เคลื่อนไหวข่มขู่ต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงแสดงออกถึงเจตนารมณ์โค่นล้มศาลรัฐธรรมนูญ

              กรณีที่สอง นิตยสารเรดพาวเวอร์ ฉบับ "การเมืองเปลี่ยนผ่าน สัญญาณเปลี่ยนระบอบ" ได้ตีพิมพ์หน้าปกที่แสดงออกถึงความต้องการให้ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเห็นว่าเป็นการกระทำของขบวนการเดียวกัน

              เครือข่ายภาคประชาชนไทย จึงนัดหมายชุมนุมใหญ่ โดยแกนนำจะอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืน และท่าทีการเคลื่อนไหวต่อไป ในการยกระดับการชุมนุม

              อย่างที่ทราบกัน เครือข่ายภาคประชาชนไทย ประกอบด้วยกำลัง 3 ส่วน คือ แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน, กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย และ สภาเกษตรกรไทย

              เบื้องต้น ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ร่วมกับ "ปรีชา 505" ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย และสภาเกษตรกรไทย ได้ออกแบบรูปขบวน "เดินทางไกล กอบกู้ราชอาณาจักรไทย" จากภาคอีสานสู่กรุงเทพมหานคร ใช้เวลา 40 กว่าวัน

              "กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย" หรือ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) สายปกป้องราชบัลลังก์ เป็นกองกำลังหลักในการเดินทางไกลฯ โดยจะมีมวลชนหมุนเวียนเข้ามาร่วมชุมนุม 500-600 คน ตลอดช่วงเวลาการเดินทางจากศรีสะเกษ ถึงสนามหลวง

              ในกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย มีคณะนำสูงสุดในแนวหน้า 7 สหาย ได้แก่ ส.พิชิต, ส.ชัยรบ, ส.เกื้อ, ส.ชลิต, ส.พนม, ส.อุทิศ และ ส.บัญชา

              ผู้ที่มีบทบาทในการกุมกำลังจริงๆ คือ ส.ชัยรบ อดีตกรรมการ พคท.เขต 666 (ดงมูล) ผู้ปฏิบัติงานที่ยังมีบารมีในหมู่อดีตสหายละแวก อ.วังสามหมอ อ.ศรีธาตุ จ.กาฬสินธุ์ และ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์

              กลุ่มพลังธรรมาธิปไตยนั้น ยังแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ หน่วยรักษาความปลอดภัย (กองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย), หน่วยศิลปิน และ มวลชนทั่วไป

              การขับเคลื่อนสู่ใจกลางพระนคร "ไชยวัฒน์" ยังยืนยันการคัดค้านศาลโลก แต่เป้าหมายจริงๆ ก็เป็นการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "เราจะอยู่ จนกว่ารัฐบาลจะไป"

              นั่นหมายความว่า "ไชยวัฒน์" ยังต้องรอสถานการณ์ทางการเมืองที่ "สุกงอม" กว่าที่เป็นอยู่เวลานี้ เพราะในปัจจุบัน อุณหภูมิความไม่พอใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังคุกรุ่นอยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย และยังไม่ถึงขั้นทะลักจุดเดือด

              จะว่าไปแล้ว ม็อบสนามหลวง จะอยู่ยาวหรือสั้น ก็ขึ้นอยู่กับ "แกนปิด" ของกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ซึ่งมีหน้าที่ "เติมมวลชน" เข้ามาเป็นระยะๆ

              ขณะที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เฝ้ามองสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยความสุขุม และไม่แสดงออกว่า จะเป่านกหวีดระดมพลในเร็ววันนี้

              ส่วนกองทัพธรรม สมณะโพธิรักษ์ ก็ให้ความสำคัญกับงานของชาวอโศกมากขึ้น และต่อปัญหาการบ้านการเมือง ชาวอโศกมีความสงบเย็นมากขึ้น

              ดังนั้น "แนวร่วม" ของเครือข่ายภาคประชาชนไทย จึงมีเพียง "ขบวนการ เสธ.อ้าย" ที่เริ่มปรากฏตัวหลังม่านม็อบสนามหลวง   

              ชื่อของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ โผล่มาแล้ว พร้อมกับ "ตัวละครหน้าเดิมๆ" ในฟากฝ่ายไม่เอาทักษิณ ซึ่งเคยไปร่วมวางแผนกับ "เสธ.อ้าย" ที่สนามม้านางเลิ้ง เมื่อปลายปีที่แล้ว

              รวมถึง "กลุ่มประชาชนทนไม่ไหว" ที่เคยระดมพลผ่านโซเชียลมีเดียไปแสดงพลังกับ "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในการชุมนุมครั้งแรกที่สนามม้านางเลิ้ง

              ส่วน "สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่เปิดตัวแกนนำไปได้ไม่นาน ก็ต้องปรับขบวนใหม่ เนื่องจากภาพลักษณ์ของแกนนำ "สหายช่วง" มีปัญหาและมีคำถามมากมายในหมู่เพื่อนมิตร จึงไม่ได้หนุนช่วยม็อบสนามหลวง

              สำหรับ "มวลชนเสื้อสีฟ้า" ก็คงรักษาระยะห่าง เมื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ไม่พอใจเครือข่ายประชาชนไทยใช้สนามหลวงเป็นที่ชุมนุม เพราะมันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดย กทม.ได้มอบหมายให้ ผอ.เขตพระนคร แจ้งความดำเนินคดีแกนนำม็อบไปแล้ว

              ที่น่าจับตา การเปิดตัว "กลุ่มไทยสปริง" นำโดย แก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.), ขวัญสรวง อติโพธิ และ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ ที่เปิดให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อคัดค้านปาฐกถาของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย

              การขยับตัวของกลุ่มไทยสปริง จะสร้าง "ปรากฏการณ์ไทยสปริง" ได้หรือไม่? ก็ยังเป็นเรื่องที่กลุ่มต้านระบอบทักษิณ เฝ้ารอเฝ้าลุ้นกันอยู่

              แกนนำม่านม็อบสนามหลวง ยังหวังที่จะให้การชุมนุมยืดยาวไปถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งมันเป็นห้วงเวลาสภาเปิด และจะมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมของ ส.ส.เสื้อแดง หลายฝ่ายคาดว่า ความไม่พอใจของประชาชนจะเพิ่มทวีขึ้น

              เฉพาะหน้า คำปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการชุมนุมคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ อาจกระตุ้นให้มวลชนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เดินออกจากบ้านมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มไชยวัฒน์ก็ได้

              ฉะนั้น สถานการณ์นับจากวันนี้ไป จะพิสูจน์ว่า การชุมนุมที่ท้องสนามหลวงนั้น สอดคล้องกับภาวะวิสัยทางการเมืองหรือไม่? หากแค่เป็นการสนอง "อัตตา" ของแกนนำบางคน ก็คงไปไม่ถึงเดือนสิงหาคม

...............................

(หมายเหตุ : 'ม็อบสนามหลวง'ชุมนุมยืดเยื้อยาวนานรอสถานการณ์'สุกงอม')