ครอบครัวประชาธิปไตย ความสุขจากคนรอบข้าง คอลัมน์... ของโปรดคนดัง โดย... ปราโมทย์ ฝ่ายอุประ
ตั้งแต่พ้นตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทยที่อยู่มาหลายปี “พี่อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย หน้าตาสดใส มีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น
แต่ถึงอย่างไร ใช่จะไร้ตำแหน่งในพรรค
ยังมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน แถมยังต้องรับหน้าที่ประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกด้วย
“พี่อ้วน” เลยต้องมีนัดหมายประชุมแทบทุกวันอยู่ดี
แต่เจ้าตัวยืนยันว่าตอนนี้มีเวลาว่างมากขึ้นกว่าตอนเป็นเลขาธิการพรรคเยอะ มีเวลาให้แก่ครอบครัวมากกว่าเดิม
ทำให้มีเวลาดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้แม้มีปัญหาสุขภาพแต่ด้วยภาระงานที่รัดตัวทำให้ไม่ได้ดูแลตัวเองเท่าที่ควร
ตอนนี้แบ่งเวลาสำหรับการออกกำลังกายชัดเจน
ต้องมีเวลาเดินสายพานอย่างน้อยวันละ 30 นาที ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะชวนครอบครัว ภรรยาและลูกสาวไปเดินออกกำลังกายที่สวนรถไฟ อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อครั้ง
ที่น่าอิจฉากว่านั้น ครอบครัว “เวชยชัย” เป็นครอบครัวประชาธิปไตย
มักหยิบยกปัญหาบ้านเมืองมาพูดคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง และเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน มีประเด็นการเมืองอะไรขึ้นมา ลูกสาวคนกลางที่อยู่ด้วยกันจะหยิบมาพูดคุยสะท้อนว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมมีความคิดเห็นประเด็นนั้นๆ อย่างไร
ทำให้ “ภูมิธรรม” รับรู้กระแสสังคมไม่ตกกระแส
ถือเป็นกระจกเงาสำหรับทำงานการเมือง
ความสุขที่สุดคือคนในครอบครัวเข้าใจการทำงานและเป็นแรงหนุนให้ทำหน้าที่
เวลานี้ถ้ามีนัดกินข้าวกับใครก็ตาม เลือกได้ “พี่อ้วน” จะนัดกินข้าวเที่ยงหรือจิบน้ำชายามบ่าย เพราะมื้อเย็นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะเป็นเวลาของครอบครัว เมื่อกินข้าวกันแล้วจะได้มีเวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เต็มที่
หลังจากคุยเต็มที่แล้วเวลา 4 ทุ่มจะเป็นเวลาส่วนตัว “พี่อ้วน” จะรีแล็กซ์ด้วยการฟังเพลง เพื่อเป็นการผ่อนคลายและปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปตามเสียงเพลง
เพลงส่วนใหญ่จะเป็นทั้งเพลงไทยและเพลงสากล แต่เน้นเป็นเพลงยุค 60-70 ศิลปินที่ฟังเป็นประจำต้องยกให้ “ทูล ทองใจ-สมยศ ทัศนพันธ์-ดิอิมพอสซิเบิ้ล-จํารัส เศวตาภรณ์-เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์”
แต่เจ้าตัวบอกแม้เป็นนักฟังเพลง แต่ไม่ชอบร้องเพลง เพราะคิดว่าไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ครอบครัวเวชยชัย จะหาเวลากินข้าวด้วยกันเป็นประจำ
นอกจากกินอาหารด้วยกันที่บ้านแล้วจะหาเวลาไปกินข้าวนอกบ้านเดือนละ 1 ครั้ง ที่ไหนว่าดีว่าอร่อยเป็นต้องไปลอง ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม อิตาลี
ได้ทำงานที่รักที่ชอบ มีคนรอบข้างที่เข้าใจ...ชีวิตแบบนี้น่าอิจฉาสุดๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง