Lifestyle

ทุกสีทุกสิงห์ ขานรับว่าที่ “ปลัดฉิ่ง”  เหมาะแก่ยุคปรองดอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สื่อบางแหล่งบอกว่า ไม่แปลกใจ เพราะ “บิ๊กฉิ่ง” คนนี้เป็นคนสำคัญที่ช่วยงานทหารมาอย่างดี ก็เลยอยู่รอดได้ในสายเขียว แม้จะโตมาจากสายแดง...ฮั่นแน่!!ว่าแต่เขาทำอะไรมา?

               ตามคาด! ที่ ครม.ไฟเขียวตั้ง ฉัตรชัย พรหมเลิศ นั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย แทน กฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยมีผล 1 ตุลาคม 2560

               ถามว่าทำไมตามคาด ไม่ใช่เพียงเพราะชื่อของเขา ที่เราได้ยินจากข่าวสารบ่อยมาก ในฐานะ “อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” ซึ่งเมืองไทยเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวท่วม ก็จะมีชื่อฉัตรชัยคนนี้แหละ ที่ออกมาแอ็กชั่นในการดูแล รับมือและแก้ปัญหาให้

               แน่นอน ถ้ามีผลงาน ถึงจะเก็บตัว ไม่ค่อยออกสื่อ แต่ด้วยความเป็น “คนเอาการเอางาน” การได้ตำแหน่งที่เหมาะสมก็เป็นคุณค่าที่ควรคู่!!

               มีการวิเคราะห์กันอย่างกว้างขวางในทำนองที่ว่า “ว่าที่” ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนนี้ นับว่าเป็นคนที่คอนเนกชั่นกว้างไกล ว่ากันถึงขนาดว่าเป็น “มือประสานสิบทิศ” มีพรรคพวกเพื่อนฝูงทุกสี ทุกค่าย ทุกองคาพยพ

               ฉัตรชัย พรหมเลิศ ชื่อเล่นว่า “ฉิ่ง” เกิด 19 กุมภาพันธ์ 2504 พื้นเพเป็นคนสุราษฎร์ธานี มีคู่สมรส คือ ดร.ปฤถา พรหมเลิศ อดีตสาวสตรีวิทยา ปัจจุบันเป็นประธานชมรมแม่บ้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีบุตรด้วยกัน คือ ไพรม์, ปอร์เช่, แพร์, เพลง และพลอย

               “บิ๊กฉิ่ง” เรียนจบระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือเรียกกันในแวดวงว่า “สิงห์ดำ” รุ่นที่ 32 หรือช่วงปี 2523 จากนั้นเรียนต่อในระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันเดียวกัน

               ขณะที่ยังลงเรียนหลักสูตรต่างๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน เช่น หลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 38 ปี 2538, หลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 41 ช่วงปี 2543 ของวิทยาลัยมหาดไทย สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

               และหลักสูตรนักบริหารระดับสูงอีกมากมายเรื่อยมา จนถึงปี 2557 เช่น ที่สถาบันพระปกเกล้า, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) ฯลฯ

               แน่นอนว่า การลงเรียนเหล่านี้คือสนามคอนเนกชั่นชั้นดี!

               สำหรับเส้นทางในอาชีพราชการ “บิ๊กฉิ่ง” เริ่มรับราชการวันที่ 13 สิงหาคม 2527 เริ่มจากเป็นปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครอง 3) อำเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร, เจ้าพนักงานปกครอง 3 กองราชการส่วนจังหวัดและตำบล กรมการปกครอง, นักการข่าว 4 กองงานความมั่นคง (ปฏิบัติงานข่าวกรอง 3 จังหวัดภาคใต้) กรมการปกครอง

               ผู้ตรวจการส่วนท้องถิ่น จ.นครสวรรค์, ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแม่เปิน จ.นครสวรรค์, เร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดสิงห์บุรี (เจ้าหน้าที่บริหารงานพัฒนาชนบท 8), เร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดนครสวรรค์ (เจ้าหน้าที่บริหารงานพัฒนาชนบท 8) ราวๆ ช่วงปี 2543

               จากนั้นไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ช่วง 1 ตุลาคม 2552–30 กันยายน 2555 และก้าวมาสู่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในตำแหน่งผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (รก.) กระทั่งเลื่อนไปนั่งผู้อำนวยการสำนักช่วยเหลือผู้ประสบภัย, ผู้อำนวยการส่งเสริมการป้องกันสาธารณภัย

               จนมาเป็นรองอธิบดี และขึ้นสู่เก้าอี้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2555 จนถึงปัจจุบัน

               กลับมาว่ากันที่เรื่อง “มือประสานสิบทิศ” สื่อหลายค่ายเขียนตรงกันว่า “บิ๊กฉิ่ง” จะคอยช่วยเหลือพรรคพวกเพื่อนฝูงทุก “สี” ทุก “สิงห์” อย่างตอนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯ เมืองลิง ก็สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

               แต่ไม่รู้เพราะความเป็น “สิงห์ดำ” หรือไม่ ที่ทำให้มีวันนี้ เพราะหากว่ากันที่ชื่อเสียง หลายคนพูดตรงกันว่า “บิ๊กฉิ่ง” นั้นเป็นคนง่ายๆ ยิ้มเก่ง เป็นที่รักและเคารพของน้องรัฐศาสตร์จุฬาฯ และสิงห์ค่ายอื่นๆ โดยเคยนั่งนายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงปี 2558-2559

               แต่ที่รู้คือ เมื่อครั้งน้ำท่วมปี 2554 ประตูน้ำบางโฉมศรีแตก ไหลทะลักเข้ามาที่รอบนอกของ จ.ลพบุรี ต้องแช่น้ำนานหลายเดือน

               “บิ๊กฉิ่ง” คนนี้แหละ ที่ร่วมกับรัฐบาลปู ในการแก้ไข ทำให้น้ำไม่ท่วมเข้าตัวเมือง ถามคนลพบุรีจะรู้ดีว่า ทุกๆ วันจะเห็นหน้าบิ๊กฉิ่งที่ออกมาลุยน้ำช่วยประชาชนเสมอ

               ผลงานครั้งนั่งผู้ว่าฯ นี่แหละที่ยังไปเข้าตา “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” อดีตนักการเมืองชื่อดังคน “สุราษฎร์ฯ” บ้านเดียวกัน สมัยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ที่แต่งตั้งเขาให้เป็นอธิบดี ปภ. เมื่อปี 2555

               ทั้งที่เป็นคนที่โตมาจากสายแดง ซึ่งตามหลักแล้ว เมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยนต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปแล้ว

               แต่กลับอยู่รอดได้ และอยู่อย่างดีด้วยในสายเขียว!!!

               สื่อบางแหล่งบอกว่า ไม่แปลกใจ เพราะ “บิ๊กฉิ่ง” คนนี้เป็นคนสำคัญที่ช่วยงานทหารมาอย่างดี แถมยังเหลืออายุราชการอีกตั้ง 4 ปี โดยจะเกษียณอายุราชการในปี 2564

               อย่างไรก็ตาม สำหรับคนคลองหลอด “ปลัด มท.” คือรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ เป็นจุดสูงสุดของชีวิตข้าราชการ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ