แม่ โผล่เยี่ยม ลูกชาย ก่อเหตุ ปล้นทองเชียงใหม่ เปิดมูลเหตุ ทำไมลงมือทำ
แม่ โผล่เยี่ยม ลูกชาย หลังก่อเหตุ ปล้นทองเชียงใหม่ เปิดมูลเหตุที่แท้จริง ทำไมต้องลงมือชิงทอง พร้อมเผย นิสัยของลูกชาย
จากกรณี นายนิพิฐพนธ์ อายุ 26 ปี ก่อเหตุ ปล้นทองเชียงใหม่ จี้ชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ หนัก 88 บาท จากร้านทองภายในห้างชื่อดังใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนลงมือ ชิงทอง ได้โทรศัพท์ลวง ว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี ชาว ต.ช่อแล อ.แม่แตง ซึ่งมีอาชีพขับรถรับจ้างผ่าน Application ให้มารับ และลงมือใช้อาวุธปืนยิง ว่าที่ร้อยโทสุเทพ จนเสียชีวิต พร้อมกับนำศพไปทิ้งลงเหว จากนั้นจึงนำชุด พนักงานไรเดอร์ และรถของผู้ตาย มาก่อเหตุชิงทองภายในห้าง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. (9 ก.ค. 2567) มารดาและบิดา ของ ผู้ต้องหา ได้เดินทางมาที่ สภ.แม่ปิง เพื่อเยี่ยมลูกชาย
มารดาระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองเพิ่งทราบเรื่องเมื่อคืนนี้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาที่บ้านพัก เพื่อทำการตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลัง นายนิพิฐพนธ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และได้มีการระบุว่า ต้องการหาเงินไปช่วยแม่ เรื่องราวดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ มารดานายนิพิฐพนธ์ บอกว่า เรื่องราวดังกล่าวเป็นความจริงเพราะเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตนเองได้นำเงินไปลงทุนเทรดทอง Gold carry trade เป็นเงินจำนวนมากกว่า 10 ล้านบาท แต่แล้วก็ถูกโกงจนหมดตัว
โดยทาง ลูกชาย ก็ได้ตักเตือนว่า อย่าไปเล่นหรือลงทุนอะไรแบบนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะถูกโกงหรือไม่ แต่แม่ก็ไม่เชื่อ จึงนำเงินไปลงทุนจนหมดหน้าตัก กระทั่งถูกโกงจนหมดตัว ซึ่งจากที่ครอบครัวเคยกินอยู่อย่างสบาย ทำให้ต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ และเมื่อลูกชายทราบเรื่อง จนอาจทำให้คิดสั้นเพื่อที่จะทำเรื่องแบบนี้ เพียงเพราะต้องการที่จะช่วยแม่
มารดาของผู้ต้องหา กล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพัก แม่ก็ยังสอบถามลูกเลยว่า ได้ไปทำเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งหากลูกทำจริง ก็ขอให้รับสารภาพไป เพราะโทษหนักจะได้เป็นเบา และศาลท่านอาจจะพิจารณาลดหย่อนโทษให้
สำหรับงานศพของผู้เสียชีวิต ตนเองก็จะเดินทางไปขอขมาอย่างแน่นอน ซึ่งทางตำรวจจะเป็นผู้พาไป "ที่ผ่านมา ลูกชอบดูหนังประเภทความรุนแรง รวมทั้งเล่นเกมแบบรุนแรงด้วยเช่นกัน ซึ่งอาการของลูก ก็จะเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่เหมือนกับคนทั่วๆ ไป บางครั้งนี้ยังคิดในใจเลยว่า เฮ้ย..! ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่าวะ แต่ผ่านมา ก็ไม่เคยนำลูกชายไปให้แพทย์ทางด้านจิตเวช ทำการตรวจสอบ"
โดย : วสันต์ ปัญญาเรื่อง