ลูกชายช็อก แม่วัย 63 เจ้าของโรงหล่อพระ 'ถูกยิงดับปริศนา' พร้อมเลขาฯ

10 มี.ค. 2567  ร.ต.ท.พิทักษ์ คำนนท์คอม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หัวหิน รับแจ้งเหตุพบสิ่งผิดปกติภายในบ้านหลังหนึ่งใกล้เคียงโรงพยาบาลหัวหิน เกรงว่าจะเกิดเหตุกับหญิงเจ้าของบ้าน หลังรับแจ้งจึงประสานสายตรวจให้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ด้านหน้าติดประตูกระจก เปิดเป็นร้านจำหน่ายพระพุทธรูป และรับหล่อพระ ฯ ที่บริเวณหน้าบ้านรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ จอดอยู่ โดยมี  ลูกชายเจ้าของบ้าน รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

 

นายเอ  (นามสมมติ) ลูกชายเจ้าของบ้าน ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนติดต่อแม่ไม่ได้หลายวันจนผิดสังเกต เกรงว่าจะเกิดเหตุกับแม่ จึงตัดสินใจเดินทางมาแม่ที่บ้านพักพร้อมด้วยภรรยา 

เมื่อมาถึงบ้านพบว่าประตูบ้านปิดล็อคไว้ แต่มีแอร์ยังทำงานอยู่ ประกอบกับรถยนต์ของแม่จอดอยู่หน้าบ้าน จึงพยายามตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจปีนเข้าไปทางหน้าต่างบานเกร็ดด้านหลังบ้าน จากนั้นได้เดินหาแม่ที่ชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องกั้นกระจก 2-3 ห้อง จนถึงห้องกระจกด้านในสุดหลังตู้ พบว่าประตูห้องล็อคไว้ แต่มองเห็นร่างคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ ขณะเดียวกัน มีกลิ่นเหม็นโชยมาเตะจมูกอย่างแรง คิดว่าต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบทันที

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน พบศพ นาง ก. (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี เศรษฐินีเจ้าของโรงหล่อพระ มีผ้าห่มคลุมร่างไว้ ใกล้กันยังพบร่าง นางสุ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเลขาฯ ของนาง ก. นอนเสียชีวิต สภาพสวมแต่ชุดชั้นใน จากสภาพศพคาดว่าทั้งสองรายจะเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว

 

จากนั้น พิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลหัวหิน เดินทางตรวจสอบและเก็บหลักฐาน เบื้องต้นพบว่าทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. โดยกระสุนเข้าที่ศีรษะ 1 ราย และอีก 1 รายเข้าที่หน้าอก
 

ด้าน น.ส.บี (นามสมมติ) ภรรยาของ นายเอ ลูกชาย นาง ก. ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นาง ก. แม่สามีจะพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง เนื่องจากไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย โดยมีนางสุ เป็นเลขาฯ ทำหน้าที่คอยดูแลช่วยขับรถ พาแม่ไปทำบุญบ้าง ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือไปหาญาติที่ต่างจังหวัด

 

หลังจากแม่ย้ายมาอยู่อำเภอหัวหิน สามีตนจะโทรศัพท์และวิดีโอคอลหาแม่เป็นประจำ ซึ่งแม่จะมีนิสัยชอบปิดมือถือ หรือติดต่อไม่ได้ครั้งละหลายวัน เพราะบางครั้งเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ไปต่างจังหวัด ชอบเดินทางใช้ชีวิตอิสระ แต่จะโทรศัพท์คุยกับลูกชายโดยตลอด

 

กระทั่ง วันที่ 1 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา แม่บอกว่าจะไปหาคุณยายที่ จ.ชุมพร ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแม่เดินทางบ่อย แต่มารู้สึกผิดปกติเพราะโทรไปแล้วไม่รับสาย ช่วงแรกคิดว่าแม่อยู่กับคุณยายจึงไม่อยากรับสาย แต่ญาติที่ จ.ชุมพร แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อแม่ได้ ทั้งที่นัดกันว่าจะมาหา และแม่ยังไม่ได้โอนเงินให้กับพยาบาลพิเศษที่ดูแลคุณยาย ทำให้เกิดความสงสัย ตนและสามีรู้สึกร้อนใจมาก จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาหาจนพบว่าแม่และเลขาฯ เสียชีวิตแล้ว

 

ด้าน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า นาง ก. วัย 63 ปี เสียชีวิตมาแล้ว 7 วัน ส่วนหญิงอีกราย อายุ 46 ปี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ โดยตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าตัวตาย และอุบัติเหตุปืนลั่นและมีการฆ่าตัวตาย

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมกันเอง ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมและตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน 
 

 

สุรยุทธ ยงชัยยุทธ  จ.ประจวบคีรีขันธ์