ครูฝ่ายปกครองโรงเรียนเทศบาล ใช้ฝ่ามือ 'ตบกกหูเด็ก' เลือดออกแก้วหูทะลุ พ่อแม่ ลั่น ไม่ยอมยันเอาเรื่องถึงที่สุด แค่มาโรงเรียนสาย แต่งกายไม่เรียบร้อย
8 มี.ค. 2567 จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6" ได้โพสต์รูปภาพ พร้อมระบุข้อความว่า "คุณครูตบบ้องหูเด็กจนเลือดไหล..ทำไม เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ ลูกเจ็บ แม่จะไม่ทน -น้องเป็นอะไรครับ / โดนครูที่ ร.ร.ตบกกหูข้างขวา - ครูทำไมรุนแรงแท้ต้องเอาเรื่องถึงที่สุด ขอให้น้องหายไวๆนะเพื่อน / เมื่อวานไปลงบันทึกประจำวัน เดี๋ยววันนี้พาลูกหาหมอเสร็จจะไปแจ้งความดำเนินคดีจ้า - น้องเป็นไงบ้างจ๊ะพี่
เบื้องต้นหมอแจ้งว่าแก้วหูข้างขวาทะลุจ้า พรุ่งนี้หมอนัดตรวจซ้ำอย่างละเอียดอีกที ว่าจะผ่าตัดได้มั้ย และจะสูญเสียการได้ยินหรือเปล่า -ขออนุญาตให้เครดิต ร.พ.สระบุรี นะคะ มาถึงปุ๊บคุณหมอตรวจปั๊ป แบบนี้ซิ เรียกว่าฉุกเฉิน ผลตรวจเบื้องต้น แก้วหูข้างขวาทะลุ ตอนนี้หูอื้อมากฟังแทบจะไม่ได้ยิน ปวดหูมาก พรุ่งนี้ตรวจซ้ำอีกรอบ เรื่องนี้แม่ไม่ยอมแน่ สงสารลูกมาก คิดมากเลย กลัวลูกสูญเสียการได้ยิน แบบนี้ใครจะรับผิดชอบลูกกู’’
ล่าสุดผู้ปกครองของเด็กชายวัย 13 ปี นักเรียน ชั้น ม.1 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งใน อ.หนองแค เข้าให้ ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สถานศึกษาสระบุรี , คณะบริหารครูของ โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งใน อ.หนองแค เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระบุรี ร่วมรับฟังเรื่องดังกล่าวที่เกิดเหตุด้วย
จากนั้นได้ พ่อเด็กชาย เปิดเผยว่า ลูกของตนเองมีเลือดไหลออกจากช่องหู เนื่องจากโดนครูตบ ซึ่งครูที่ตบเป็นผู้ชาย อยู่ฝ่ายปกครอง ตนได้พาลูกไปหาหมอแล้ว เบื้องต้นหมอแจ้งว่า แก้วหูข้างขวาทะลุ มีเลือดไหลซึมออกมา ทางตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กคนอื่น
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (7 มี.ค.2567) ช่วงเวลา 08.00 น. จนลูกกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็น ได้บ่นว่า ปวดหู ตนสังเกตเห็นความผิดปกติ มีเลือดไหลออกมาจากหู จึงได้เรียกลูกมาสอบเค้น จนรู้ความจริงว่า โดนครูตบมา ซึ่งตอนแรกลูกชายไม่ยอมบอก ตอนนี้หมอได้ให้กลับบ้านมาคอยดูอาการ เพราะเมื่อเช้านี้ได้ส่องกล้องเข้าไป แต่เนื่องจากหูมีอาการบวม จึงไม่สามารถมองเห็นแก้วหูได้ หมอจึงให้ยามากิน เพื่อจะให้ลดอาการบวมและอักเสบ แล้วค่อยกลับไปรักษากันต่อ
ตอนนี้ลูกชายของตน มีอาการซึม เศร้า ร้องให้ และยังไม่รู้ว่าเขาอยากจะกลับไปเรียนที่เดิมหรือไม่ เบื้องต้น มีครูเข้ามาพูดคุยเจรจากันแล้ว แต่ทางตนนั้นไม่ยอม จะดำเนินการให้ถึงที่สุด
ส่วนครูที่ก่อเหตุ ยังไม่มีการมาพูดคุยกับตนเองเลย และสาเหตุที่ครูตบลูกของตนนั้น เพราะลูกของตนมาโรงเรียนสายและแต่งตัวไม่เรียบร้อย โดนลงโทษด้วยกันทั้งหมด 4 คน ตนมารู้ก็ช่วงเย็นแล้ว เพราะอาการของลูกไม่ไหว เขาจึงมาบอกตนว่า ปวดและเจ็บหู จนสอบเค้นไปมา ลูกก็บอกว่าโดนครูตบมา ซึ่งมันเป็นเรื่องจริง
พ่อเด็กชาย 13 ปี บอกอีกว่าได้โทรไปคุยกับครูคนที่ตบ ซึ่งครูก็ยอมรับว่า เป็นคนลงมือทำจริง อาจจะมีอารมณ์ชั่ววูบด้วย แต่มันก็ไม่น่าทำกันถึงขนาดนี้ ตนได้บอกว่าจะพาลูกไปหาหมอ ครูก็ขอโทษ ยอมรับผิด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเดี๋ยวเขาออกเอง โดยคิดว่าเรื่องเงินมันไม่ใช่ กฎแบบนี้ไม่น่าเอามาใช้กับเด็ก และถ้าเขามาขอโทษต่อหน้า ตนก็ให้อภัยได้ แต่เรื่องดำเนินคดี ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะว่าถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ในวันข้างหน้าเราไม่รู้จะเกิดขึ้นอีกมั้ย
ทั้งนี้ เด็กชาย 13 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุไปโรงเรียนสาย และสวมกางเกงยีนส์ไป ครูได้เรียกพวกตน 4 คน ไปลงโทษด้วยการตบ จากนั้นก็ไล่ให้ไปเข้าแถว จังหวะนั้นครูหันมาเห็นตนใส่กางเกงยีนส์มา เขาก็บอกว่า "นักเรียนเห้...ไรใส่กางเกงยีนส์มาโรงเรียน" และเขาก็ไล่ตนกลับบ้าน ตนก็กำลังจะเดินกลับบ้านไปเปลี่ยนชุด และจะไปหากางเกงต่อ เขาก็เรียกตน แล้วบอกว่า "มานี่ก่อน" แล้วบอกว่า "ทำไมใส่กางเกงยีนส์มา" ตนก็ตอบว่า "ผมหากางเกงวอร์มไม่เจอ เขาก็บอกว่า เออๆ งั้นเมิงกลับไปเข้าแถว แก้ ร.ให้ครบ"
จากนั้นผ่านไป ประมาณ 10 นาที ตนรู้สึกวิ้งๆที่หู แล้วมีเลือดไหลออกมา จึงได้เอากระดาษมายัดไว้ เพราะไม่กล้าโทรบอกแม่ เนื่องจากกลัวว่าแม่จะมาที่โรงเรียนแล้วจะมีปัญหา พอกลับไปถึงบ้าน ตนทนไม่ไหว จึงได้บอกแม่ให้พาไปหาหมอ เพื่อนอีก 3 คน ก็โดนเหมือนกัน แต่เพื่อนเอนหัวหลบ แต่ตนรับเต็มๆเลย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยเบื้องต้นว่า อยู่ระหว่างสอบปากคำพ่อแม่ของเด็ก ประกอบกับเจ้าทุกข์เป็นเยาวชน ต้องรอหน่วยงานสิทธิเด็กและสตรีมาร่วมรับฟัง ตอนนี้คงต้องสอบทางผู้ปกครองไปก่อน หากพบว่าครูคนดังกล่าวผิดจริงก็จะเชิญมาให้ปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนความผิดด้านวินัย ต้องให้ทางโรงเรียนต้นสังกัดดำเนินการ ขณะที่ ผลทางการแพทย์นั้น ผลออกมาว่าเป็นแก้วหูฉีกจริง มีการรักษา 1 วัน อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะทำการสอบสวนอีกครั้งว่าอาจมีผลข้างเคียงอย่างอื่นหรือไม่
สมยศ พิมมะศร จ.สระบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง