'ผอ.สำนักพุทธ' ขอนแก่น โดน 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ดูดเงินล้านเกลี้ยงบัญชี

13 ก.พ.67 ว่าที่ร้อยตรี จุลสัน ทันอินทร์อาจ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยเรื่องราว ที่ถูกมิจฉาชีพดูดเงินเกลี้ยงบัญชี ว่า ในวันที่ 2 ก.พ. 2567 ตนตั้งใจจะจองตั๋วเครื่องบินไป กทม.ในวันที่ 5 - 6 ก.พ. จึงได้ตั๋วเครื่องบินในกูเกิล จากนั้นเห็นลิงก์ของสายแห่งหนึ่ง จากนั้นได้ได้สอบถามราคาตั๋ว แต่ก็ยังไม่ทันได้ซื้อตั๋ว เพราะจองสายการบินอื่นได้ก่อนเพราะราคาถูกกว่า 

 

 

 

จากนั้นได้มีไลน์จากลิงก์ของสายการบินแห่งนั้น ทักมาหาตนสอบถามว่าสนใจสมัครสมาชิกหรือไม่  ซึ่งตนเองก็สนในสมัครสมาชิก และส่งชื่อภาษาอังกฤษ และเบอร์โทรศัพท์ประจำตำแหน่งให้ ซึ่งไม่ใช่เบอร์ส่วนตัวที่ใช้ผูกไว้กับแอปพลิเคชันของธนาคาร เนื่องจากกลัวมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

จากนั้นช่วงบ่าย ได้มีไลน์ของสายการบินที่สมัครสมาชิกไว้ ได้วิดีโอคอลเข้ามาตนจึงรับสาย แต่ต้นทางไม่เปิดหน้า จากนั้นให้ตนยืนยันการสมัคร มีทั้งการสแกนใบหน้า ด้วยความที่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของสายการบิน จึงต้องมีการสแกนใบหน้าและตั้ง รหัส ก่อนมิจฉาชีพจะวางสายไป

 

 

 

 

ต่อมาในช่วงค่ำวันเดียวกัน ตนได้เปิดแอปธนาคารเพื่อเช็คเงินในบัญชี ปรากฎว่ายอดเงินเหลือเพียง 0.87 สตางค์ ตนรู้สึกช็อกว่าเงินหายไปได้อย่างไร  จึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

 

 

 

และได้ติดต่อธนาคารในช่วงเช้า แต่ทำอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอายัดได้ 2 บัญชี ที่เงินถูกโอนไป คือ แต่มีเงินเหลือแค่ 300 บาทเศษในบัญชีที่ถูกอายัด  จากนั้นตนได้ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจไซเบอร์ที่ส่วนกลาง ก่อนจะทำเรื่องยื่นฟ้องคดีผู้บริโภคกับธนาคารเจ้าของบัญชีทาง E-filing

 

อย่างไรก็ตาม ผอ.สำนักพุทธ ขอนแก่น ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากความประมาทของตนเองเพราะไม่ได้มีการเปิดแอปธนาคารเลยในขณะทำรายการกับลิงก์ที่อ้างว่าเป็นของสายการบิน  แต่เป็นการทักไปในไลน์ และส่งเฉพาะเบอร์มือถือที่ไม่ได้ผูกกับธนาคาร และมีการตั้งค่าการโอนเงินไว้ไม่เกิน 500,000 บาท แต่กรณีนี้โอนออกเป็นล้าน

 

 

 

 

และการโอนเงินเกิน 50,000 ต้องสแกนใบหน้า ซึ่งที่ว่ามาก็เป็นเพียงการให้ธนาคารผู้รับฝากชดใช้เงินอันเกิดจากระบบความปลอดภัยทางธนาคารไม่เพียงพอ แต่ท้ายสุดในส่วนของคดีอาญา ก็ตามเอาเงินคืนกับมิจฉาชีพชีพไม่ได้อยู่ดี เพราะหาตัวตนไม่เจอ

 

และในวันเดียวกันกับที่ ผอ.สำนักพุทธฯ ขอนแก่น ถูกดูดเงินนั้น  มีคนไปติดต่อะธนาคารว่าถูกดูดเงินไปพร้อมกันอีก 2 คน โดยคนหนึ่งในนั้นถูกดูดเงินไปถึง 4 ล้านบาท ทาง ผอ.จึงจ้างทนายฟ้องธนาคาร โดยนำทองไปขายเพื่อนำเป็นค่าใช้จ่ายและฟ้องคดี

 

ว่าที่ร้อยตรี จุลสัน ยังบอกอีกว่า ในวันแรกที่เกิดเรื่อง ยอมรับว่าคิดฆ่าตัวตาย จึงได้โทรไปลาพระผู้ใหญ่ที่ตนรู้จัก จากนั้น "พระท่านสอนว่า คนเราเกิดมาตัวเปล่ากลับไปก็ตัวเปล่า ฉะนั้นอย่าให้การสูญเสียครั้งนี้มาทำลายชีวิตเราที่เหลืออยู่" ทำให้ตนเองตัดสินใจที่จะไม่ทำร้ายชีวิตของตัวเอง