ข่าว

ศาลสั่งประหารชีวิต 'ลูกเอียด โพธิ์ดำ' ยิงเพื่อนเจ้าบ่าวดับปี 65 ไม่รออาญา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลจังหวัดตรัง สั่งประหารชีวิต "ลูกเอียด โพธิ์ดำ" ยิงเพื่อนเจ้าบ่าวเสียชีวิต และบาดเจ็บ 2 ราย ปี 65 ชี้ อ้างเหตุป้องกันตัว ฟังไม่ขึ้น

2 ก.พ. 2567 กรณี นายเจริญ (สงวนนามสกุล)  หรือ ฉายา "ลูกเอียด  โพธิ์ดำ" อายุ 42 ปี ชาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงนายศราวุฒิ (สงวนนามสกุล)  หรือโกลาว อายุ 34 ปี เสียชีวิตบนถนนสายหินคอกควาย-บ้านหัวควน พื้นที่บ้านหินคอกควาย หมู่ 12 ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังมีปัญหากันมาจากงานแต่งงานเพื่อน ซึ่งจัดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร แต่คนในงานเข้ามาห้ามปราม จนมีการยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัด ก่อนพาผู้ตายออกมาจากงานเพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างเดินไปขึ้นรถ นายเจริญ เดินตามมาจ่อยิงแสกหน้า นายศราวุฒิ เสียชีวิต เหตุเกิดคืนวันที่ 29 ธ.ค. 2565  พื้นที่ สภ.ปะเหลียน 

ศาลตรัง สั่งประหารลูกเอียด โพธิ์ดำ

 

 

ล่าสุด มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567  ศาลจังหวัดตรัง  อ่านคำพิพากษาคดีตามที่พนักงานอัยการ ร่วมกับ นางหลก (สงวนนามสกุล)  มารดาผู้เสียชีวิต เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง จำเลยที่ 1 คือ นายเจริญ  ฉายา ลูกเอียด โพธิ์ดำ อายุ 43 ปี ชาวบ้านหัวควน  ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

และจำเลยที่ 2 น.ส.สุทิพย์ (สงวนนามสกุล)  หรือผู้ใหญ่เขียว อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน  บ้านหัวควน ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ฐานข้อหาสนับสนุนให้จำเลยที่ 1 นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเพื่อนำไปก่อเหตุ  

 

 

นายศราวุฒิ ถูก ลูกเอียด โพธิ็ดำ ยิงเสียชีวิต เมื่อปี 65

 

 

คดีนี้ดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.2565 นายเจริญ หรือ ฉายา ลูกเอียด โพธิ์ดำ อายุ 43 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ที่ 465/2565 ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาว (ปืนของจำเลยที่ 2) ยิงนายศราวุฒิ  หรือโกลาว   เสียชีวิต บนถนนสายหินคอกควาย-บ้านหัวควน พื้นที่ หมู่ 12 บ้านหินคอกควาย ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

 

หลังจากทั้งคู่มีปัญหากันมาจากงานแต่งงาน ซึ่งจัดขึ้นภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ บ้านหินคอกควาย ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง  ที่จัดขึ้นห่างจากจุดเกิดเหตุไปภายในซอยประมาณ 200 เมตร

 

 

นายเจริญ หรือ ลูกเอียด โพธิ์ดำ

 

 

โดยในวันนัดฟังคำพิพากษา  นายเจริญ หรือ ลูกเอียด โพธิ์ดำ ได้เดินทางมาที่ศาลพร้อมด้วยบรรดาญาติญาติ และทนายประจำตัว ส่วนทางฝ่ายโจทย์ได้มีนางหลก ซึ่งเป็นโจทย์ร่วม มารดาของนายศราวุฒิ หรือโกลาว  ได้เดินทางมาฟังพร้อมด้วยทนายประจำตัวฟังคำพิพากษา

 

นายเจริญ จำเลยที่ 1 ให้การว่ากระทำลงไปเพื่อป้องกันตัว อ้างว่าผู้ตาย และผู้บาดเจ็บอีก 2 รายได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตนก่อนเลยยิงสู้เพื่อป้องกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาคำให้การของจำเลยที่อ้างว่าเป็นการป้องกันตัวฟังไม่ขึ้น

 

ส่วนจำเลยที่ 2 น.ส.สุทิพย์ หรือผู้ใหญ่เขียว ให้การว่า อาวุธปืนที่จำเลยที่ 1 ใช้ก่อเหตุเป็นปืนราชการทางฝ่ายปกครอง และได้ให้อาวุธปืนจำเลยที่ 1 ไปจริง แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมนำไปใช้ก่อเหตุ  

 

ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่1 มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตราที่ 288 , 289 และ พรบ.อาวุธปืน ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นประหารชีวิต โดยจำเลยที่ 1 มีความผิดกรรมเดียวแต่กฎหมายหลายบท จึงให้รับโทษตามบทลงโทษที่หนักที่สุด 


ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ลงโทษ จำคุก 6 เดือน ปรับ 12,000 บาท โดยให้รอลงอาญา 1 ปี  

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า จำเลยที่ 1 ได้เตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่การขอประกันตัวต้องยื่นต่อศาลอุทธรณ์ในการพิจารณา ส่วนความผิดทางปกครองกรณีจำเลยที่ 2 ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ทางนายอำเภอ และผู้บังคับบัญชา จะต้องมีการพิจารณาโทษตามระเบียบต่อไป

 

ด้านแม่ของนายศราวุฒิ หรือโกลาว เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาว่า มีความพอใจในคำตัดสินของศาลเพราะลูกชายที่เสียชีวิต เป็นเสาหลักของครอบครัว และยอมรับว่า ยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องการให้จำเลยได้รับการประกันตัวออกมา

 

 

นพรัตน์ โชติเกษมกูล  จ.ตรัง
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ