แพทย์พบสาร 'แอมเฟตามีน' ในกัปตันเรือ สปีดโบ้ท ชนโขดหินรอผลยืนยันอีกครั้ง

1 ม.ค. 2567 จากเหตุการณ์ สปีดโบ๊ท ชื่อ อภิรักษ์ 89 ซึ่งมีนายณัฐรุธ (สงวนนามสกุล) เป็นกัปตัน นำนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เกิดอุบัติเหตุชนโขดหินบริเวณริมฝั่งทางทิศตะวันออกของเกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 9 ราย ในจำนวนเป็นคนเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นเด็กหญิง 5 ขวบ ชาวรัสเซีย และกัปตันเรือ และต่อมาเด็กหญิง 5 ขวบ เสียชีวิต เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 31 ธ.ค. 2566 

 

ล่าสุด นายโสภณ สุวรรณนัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการสุ่มตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของกัปตันเรือและคนประจำเรือที่นำนักท่องเที่ยวออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต ไปยังเกาะแก่งต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการในการท่องเที่ยวทางทะเล ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยทางทะเล ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี มีผู้ที่เข้ารับการตรวจฯ จำนวน 23 ราย ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด 

 

 

 

 

ด้านนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายณชพงศ ประนิตย์ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, นายทิวัตถ์ สีดอกบวบ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, ฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต, เทศบาลตำบลฉลอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อติดตามการสุ่มตรวจปัสสาวะของกัปตันเรือและคนประจำเรือดังกล่าวด้วย พร้อมกันนี้ยังได้มีการตรวจสภาพความพร้อมของท่าเรือและเรือที่จะนำนักท่องเที่ยวออกไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ด้วย 

 

ด้าน นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึง อาการของผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 8 ราย ขณะนี้ มีอาการสาหัส และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดจำนวน 5 ราย และนอกจากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 3 รายแล้ว ยังมีกัปตันเรือกับคนประจำเรือด้วย ส่วนที่เหลือ อีก 3 รายเป็นชาวรัสเซียเช่นกัน โดยอาการดีขึ้นตามลำดับ ในจำนวนนี้มีเด็ก 3 ขวบด้วย 1 คน 

 

 

 

 

จากการตรวจหาสารเสพติดกัปตันเรือที่ประสบอุบัติเหตุ ได้รับรายงานว่า พบสารกลุ่มแอมเฟตามีน แต่ต้องรอยืนยันผลอีกครั้งว่าเป็นสารชนิดใด ส่วนคนประจำเรือได้ตรวจเช่นกัน แต่ขณะนี้ผลยังไม่ออก และเนื่องจากทั้งสองคนยังอยู่ในอาการสาหัส จึงยังไม่ได้ตรวจสอบเชิงลึกซึ่งต้องรออาการให้ดีขึ้นก่อน

 

ขณะที่นายณชพงศ ประนิตย์ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการต่อจากนี้ ว่า หลังจากนี้จะมีการเรียกประชุมผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบริเวณอ่าวฉลอง เพื่อสร้างความเข้าใจในการใช้ระบบสมาร์ทเพียร์ซึ่งจะมีการบันทึกข้อมูลทุกอย่าง 

 

นอกจากนี้จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเข้มหาสารเสพติดและความพร้อมของกัปตันเรือและนายท้ายเรือ รวมทั้งจะได้เร่งอบรมคนประจำเรือ มัคคุเทศก์และผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวให้ตระหนักถึงความพร้อมในการให้บริการ และเชิญผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว เน้นย้ำการสุ่มตรวจหาสารเสพติดในพนักงานที่จะรับเข้ามา และจะต้องทำการสุ่มตรวจเป็นระยะๆ ที่ผ่านมาทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอำนาจโดยตรงได้มีการสุ่มตรวจเป็นระยะๆ อยู่แล้ว

 

ส่วนเจ้าท่าฯ ทำหน้าที่ในการประสานติดต่อกับเชิญกัปตันเรือและคนประจำเรือ หลังจากนี้จะมีความเข้มและมีความถี่มากขึ้น เพราะเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และจะมีการกระจายสุ่มตรวจทุกท่าเทียบเรือ

 

อย่างไรก็ตามนายณชพงศ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสภาพเรือที่เกิดเหตุเบื้องต้น โดยดูความพร้อมของเรือและตัวเรือ พบว่า ไม่มีน้ำเข้า และจากร่องรอยของการชนคาดว่า เป็นการชนตรงๆ คาดว่าจะเกอดจากความผิดพลาดของผู้ควบคุมเรือ

 

สาลินี  ปราบ   จ.ภูเก็ต