บั้นปลายชีวิต 'ยาย' สองพี่น้อง ถวาย บ้านทรงไทย-ที่ดิน 4 ไร่ ให้ วัด

นับเป็นเรื่องราวที่เปี่ยมล้นไปด้วยความอิ่มเอมใจ หลังผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับ “ยาย” สองพี่น้อง ที่ทำบุญถวายบ้านทรงไทย พร้อมที่ดิน 4 ไร่ ให้กับวัด ศรีเขตนันทาราม จ.นนทบุรี

 

 

 

 

 

โดยบ้านทรงไทยหลังดังกล่าว เป็นของ “ยายทองหล่อ กับ ยายกะท้อน แจ่มเหมือน” อายุ 83 และ 80 ปี สองพี่น้อง ที่อยู่ในพื้นที่ ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่อาศัยกันเพียงลำพังสองคน ซึ่งขณะผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ มีพระครูพิทักษ์สุนทร เจ้าอาวาสวัดศรีเขตนันทาราม ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ นายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำ จ.นนทบุรี ร่วมพูดคุยด้วย

 

ยายทองหล่อและยายกะท้อน เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจยกที่ดินถวายวัดไปนั้น มีนายหน้าประมาณ 2-3 คน มาติดต่อขอซื้อที่ดินผืนนี้ แต่นายหน้าบอกว่าราคาแพงเกินไป จึงตัดสินใจกันว่า หากยอมขายที่ดินผืนนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิด และผูกพัน ไปแล้ว ก็ต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแทน จึงคิดตรงกันว่า เงินทองที่พอมีกินมีใช้กันอยู่ก็เพียงพอแล้ว ไม่ได้อดยากอะไร กับชีวิตในบั้นปลาย

 

 

 

จึงตัดสินใจยกที่ดินถวายทำบุญกับวัด ดีกว่า อย่างน้อยที่ดินผืนนี้ ก็ยังคงอยู่กับวัดตลอดไป ไม่มีใครสามารถเอาไปได้ และตนทั้งสองคน ยังได้พักอาศัย โดยไม่ต้องย้ายที่อยู่ใหม่ และก็มีความเชื่อความศรัทธาว่า ด้วยผลบุญกุศลที่ตนทั้งสองตั้งใจทำบุญใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต จะทำให้ชาติหน้า ที่ได้เกิดมา มีที่เกิด ที่กิน ที่อยู่ ไม่อดยาก ตามที่ได้อธิษฐานไว้

 

 

 

 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา “ยาย” ทั้งสอง ได้เคยร่วมกันซื้อที่ดินถวายให้กับวัดที่อื่นมาแล้ว 2 วัด คือวัดบ้านกรวด อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี และวัดสามง่าม ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ส่วนวัดสุดท้ายที่ตั้งใจยกที่ดินถวาย คือ วัดศรีเขตนันทาราม ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเมื่อนับรวมที่ดินที่ตนทั้งสองคนถวายให้กับทางวัดทั้ง 3 แห่งไป รวมเป็นพื้นที่ประมาณ 10 ไร่

 

ด้าน พระครูพิทักษ์สุนทร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ ทางวัดมีการทำบุญเลี้ยงเพลพระ ซึ่งยายทองหล่อกับยายกะท้อน สองคนพี่น้อง ได้เดินทางมาร่วมทำบุญที่วัดตามปกติเหมือนเช่นเคย แต่ในวันนั้น ได้นำโฉนดที่ดินประมาณ 4 ไร่เศษ พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นบ้านทรงไทย มาขอยกถวายให้กับทางวัดเป็นผู้ดูแลต่อไปในอนาคต เนื่องจากอายุมากแล้ว และมีกันอยู่เพียง 2 สองคนพี่น้อง จึงเกรงว่าหากไม่จัดการเรื่องทรัพย์สมบัติให้เรียบร้อยเสียก่อน ก็จะเป็นห่วงผูกมัด จึงปรึกษา และตัดสินใจร่วมกัน ก่อนจะเดินทางนำโฉนดที่ดินมาถวาย

 

 

 

 

“ทางวัดก็ไม่ได้เข้าไปดำเนินการอะไรในพื้นที่ดังกล่าว ปล่อยให้ยายทั้งสองคนพักอยู่อาศัยกันไปตามเดิมเหมือนปกติ ตามเจตนาที่โยมทั้งสองคนต้องการ คือ หลังยกโฉนดที่ดินพร้อมบ้านถวายวัดไปแล้ว ก็จะขออยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ต่อไปจนกว่ายายทั้งสองคนจะไม่อยู่แล้ว ทางวัดจึงจะเข้าไปดูแลต่อแทน” พระครูพิทักษ์สุนทร กล่าวสรุป

 

 

ข่าว // ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ // นนทบุรี